วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Rebound
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงแรก แต่มีแรงขายออกมาในภาคบ่ายทำให้ดัชนีปรับตัวลงในแดนลบ ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ +,- ราว 6 จุด มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มประกัน
นำโดย BLA หลังรายงานงบดีกว่าตลาดคาดมาก และ TLI ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,369.29 จุด -4.04 จุด -0.29% มูลค่าการซื้อขาย 39,858 ลบ. Program Trading -63.56 ลบ. ต่างชาติ -1,280.28 ลบ. TFEX -5,157 สัญญา ตราสารหนี้ -1,930.57 ลบ
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 331.37 จุด หรือ +0.85% ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7 หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ +0.3% ปิดที่ 79.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด และจีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐและจีนซึ่งเป็น 2 ประเทศที่ใช้น้ำมันดิบสูงสุดของโลก
+ FED สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.2% ใน 2Q67
+ สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การชะลอตัวของตลาดแรงงานอาจจะทาให้FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้
+ สำนักข่าวอัลกอฮีรานิวส์ ของอียิปต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การเจรจาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่อียิปต์ เพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาได้ปรากฏให้เห็น "ความคืบหน้าอย่างมาก" แต่ยังคงมีบางประเด็นที่ยังหาทางตกลงกันไม่ได้
ปัจจัยลบ
- เรือรบสหรัฐแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันจะเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลจีนประณามการกระทำดังกล่าว
- การประชุม ครม.สัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่องการแก้ไขกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% สำหรับสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์นำเข้าจากต่างประเทศที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อพิจารณาอนุมัติ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นักลงทุนยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,365-1,375 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• สินค้าส่งออกเดือน มี.ค.ที่ยังเติบโต : STA NER TRUBB TEGH XO ITC AAI
• ไมโครซอฟท์ ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ : INSET SYMC INET ITEL TKC
หุ้นรายงานพิเศษ
HMPRO "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 14.20 บาท)
"งวด 1Q67 กำไร 1,713 ลบ. +6%YoY, +2%QoQ
•งวด 1Q67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,713 ลบ. +6%YoY, +2%QoQ โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 18,788 ลบ. +3%YoY, +3%QoQ รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายของโฮมโปร และเมกาโฮม และได้ประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt ของทางภาครัฐ มี %GPM ที่ระดับ 26.2% เพิ่มขึ้น YoY จาก 26.1% ใน 1Q66 เนื่องจากสินค้า private brand ของเมกาโฮมมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น แต่ลดลง QoQ จาก 27.3% ใน 4Q66
•สิ้นงวด 1Q67 บริษัทมี โฮมโปร 89 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 27 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ในปี 67 ราว 6-8 สาขา แบ่งเป็น โฮมโปร 3-4 สาขา และ เมกาโฮม 4 สาขา โดยในงวด 1Q67 ไม่มีการเปิดสาขาใหม่ 2Q67 มีแผนเปิด 2 สาขา ผู้บริหารคาด SSSG ใน 2Q67 อยู่บริเวณทรงตัว -1 ถึง -2%YoY
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกอ่อนๆ ต่อผลการดำเนินในช่วงที่เหลือของปีที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ และจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 ราว 6,995 ลบ. +9%YoY กำไรในงวด 1Q67 คิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรทั้งปี โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ราว 19x อยู่ในระดับต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี มีราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เฉลี่ย 14.20 บาท เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) BLC (Bloomberg consensus - บาท) ส่งซิกครึ่งหลังฟอร์มแจ่ม รับฐานลูกค้าโต-สินค้าใหม่หนุน พร้อมปักหมุดปีนี้ รายได้ทะลุ 1.6 พันล้านบาท รับดีมานด์ใน-นอก ทะลัก แถมยกทัพนวัตกรรมผลิตยา-สมุนไพร ร่วมงาน "ซีพีเอชไอ เซาส์อีส เอเชีย 2024" ช่วงวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2567 หวังแมชชิ่งธุรกิจต่อยอดรับทรัพย์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SCN (Bloomberg consensus - บาท) เล็งยื่นไฟลิ่ง บริษัทย่อย SAP เข้าตลาดหุ้นไทย เสริมแกร่งระยะยาว คาดชัดเจนครึ่งหลังปี 2567 แถมส่งซิก Q2/2567 ฟอร์มสวย อานิสงส์กลุ่มธุรกิจหนุน บอสใหญ่ "ฤทธี กิจพิพิธ" ปักหมุดปี 2567 รายได้เติบโต 10-20% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว พร้อมเดินหน้าศึกษาโครงการพลังงานไฮโดรเจน ชี้มองเป็นโอกาสต่อยอดธุรกิจ-หนุนการเติบโตต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SAV (Bloomberg consensus 24.10 บาท) แย้มผลงานไตรมาส 2/2567 ยังแกร่ง หนุนจากปริมาณเที่ยวบินในกัมพูชาเริ่มเร่งตัว เล็งต่อยอดธุรกิจในสปป.ลาว เผยเริ่มศึกษาการเข้าทำธุรกิจร่วมกับหน่วยงานภาครัฐบาลสปป.ลาวแล้ว ด้านผลงานไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 417.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% และมีกำไรในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท อยู่ที่ 94.3 ล้านบาท เติบโต 207% เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินปรับเพิ่มขึ้นในเขตน่านฟ้าประเทศกัมพูชาที่ทยอยกลับเข้าสู่ช่วงก่อนการระบาด COVID-19 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) III (Bloomberg consensus 10.30 บาท) มั่นใจผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี 2567 แนวโน้มดีจากเทรนด์โลจิสติกส์ฟื้นตัว และการขยายธุรกิจของบริษัทที่เข้าลงทุน ชูยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond ผสานความแข็งแกร่งกลุ่มธุรกิจในเครือทริพเพิลไอ เปิดงบไตรมาส 1/2567 มีรายได้ 499 ล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)