เงินเฟ้อต่ำคาดหนุน ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ เด้งเกือบ 500 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดีดตัวขึ้นในวันสุดท้ายของการซื้อขายใน สัปดาห์นี้ หลังร่วงลงอย่างหนักในวันพุธ ข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ล่าสุดที่ออกมาต่ำกว่าคาด ช่วยดึงตลาดขึ้น
ซีเอ็นบีซีรายงาน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) ตลาดหุ้นสหรัฐ ดีดตัวขึ้นในวันศุกร์ ( 20 ธ.ค.) ปิดสัปดาห์ที่ผันผวนหนัก หลังดัชนีร่วงลง 1,100 จุดในวันพุธ และเป็นร่วงลงติดต่อกัน10 วันเป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดนับ ตั้งแต่ทศวรรษ 1970
เมื่อคืน ข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาดช่วยผลักดันให้ ดัชนีฟื้นตัวแรงในวันสุดท้ายของการเทรดในสัปดาห์นี้
- ดัชนีดาวโจนส์ (Dow) ซึ่งประกอบด้วยหุ้น 30 ตัว เพิ่มขึ้น498.02 จุด หรือ 1.18% สู่ระดับ 42,840.26 จุด
- ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.09% ปิดที่ 5,930.85 จุด
- ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.03% และปิดที่ 19,572.60 จุด
ดัชนีรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือน พฤศจิกายน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลาง สหรัฐ(เฟด)ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้เล็กน้อย และช่วยบรรเทาความกังวลที่เกิดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เมื่อเฟดประกาศ ว่าจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งส่วนหนึ่ง เป็นเพราะภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงค้างอยู่สูง
ทั้ง 11 กลุ่มธุรกิจของดัชนี S&P 500 ปิดตลาดเพิ่มขึ้น โดย อสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลุ่มที่ปรับตัว สูงขึ้นมากที่สุด มีเพียง 53 หุ้นที่ปิดตลาดในวันศุกร์ที่ปรับตัวลดลง
นายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก ให้สัมภาษณ์ซี เอ็นบีซีว่า เขาได้รับกำลังใจจากตัวเลขเงินเฟ้อในวันศุกร์ และอัตราดอกเบี้ยอาจยังคงลดลงในปีหน้า แม้ว่าธนาคารกลาง จะมีท่าทีระมัดระวังก็ตาม
“เรายังคงมุ่งหน้าสู่ระดับ 2% และอย่างน้อยในเดือนใหม่นี้ คุณคงไม่อยากให้ความสำคัญกับข้อมูลเดือนใดเดือนหนึ่ง มากเกินไป แต่ผมหวังว่าสิ่งนี้จะบ่งบอกว่าการที่เฟดปรับตัว ขึ้นในช่วง 2 เดือนนี้เป็นเพียงการสะดุดมากกว่าการ เปลี่ยนแปลงทิศทาง” นายกูลส์บีกล่าว ซึ่งทำให้ดัชนีหลักพุ่งขึ้นระหว่างวันหลังจากที่เขาแสดงความคิดเห็น
หุ้นขึ้นในวันศุกร์ ถือเป็นการปิดท้ายสัปดาห์ที่วุ่นวายได้เป็นอย่างดี ในช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 15 จุด และยุติการร่วงลง 10 วันติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานที่สุดตั้งแต่ปี 1974 (2517) การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 1,100 จุดในวันพุธ หลังเฟดส่งสัญญาณว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า แทนที่จะเป็น 4 ครั้งตามที่คาด การณ์ไว้ในตอนแรก ถือเป็นตัวเร่งให้หุ้นร่วง
นายทอม ฟิตซ์แพทริก กรรมการผู้จัดการของบริษัทให้บริการด้านการเงิน R.J. O’Brien and Associates กล่าวว่า “วันนี้ผู้คนสงบลง ” “ไม่น่าจะมีปัจจัย กระตุ้นขาลงในตอนนี้ ก่อนถึงคริสต์มาสและปีใหม่ ดังนั้น ความผันผวนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาอาจคลี่คลายลงบ้าง”
แม้ว่าดัชนีหลักจะพุ่งสูงขึ้นในวันศุกร์ แต่ทั้งดัชนีทั้งสามต่างก็ลดลงในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 2.3% ถือเป็น สัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเกือบ 2% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง ประมาณ 1.8%
ขณะเดียวกัน ในวันพฤหัสบดีสภาผู้แทนสหรัฐไม่สามารถลง มติผ่านมาตรการที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับรองในการจัดหาเงินทุนให้กับรัฐบาลเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดทำการของรัฐบาล โดยหากไม่มีข้อตกลงระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต การปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนจะเริ่มในคืนวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐ