'ตู้ห่วงใย'ป่วย 42 กลุ่มอาการ รับบริการฟรี 30 บาทรักษาทุกที่

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิด “ตู้ห่วงใย” บริการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชนด้วย 30 บาทรักษาทุกที่ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดร.พญ. เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ผู้แทนอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และ คุณชัชฎา อภิชาสุทธากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทัช เทคโนโลยี จำกัด ร่วมพิธีเปิด

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นอีกก้าวหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งได้นำนวัตกรรมบริการการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชน หรือ “ตู้ห่วงใย” มาดูแลผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ให้เข้าถึงบริการด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและมาตรฐานสาธารณสุข โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการตู้ห่วงใยแห่งแรกไปแล้วที่ชุมชนเคหสถานเจริญชัยนิมิตใหม่แล้ว 

การติดตั้งเพิ่มเติมในพื้นที่ “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” ซึ่งเป็นศูนย์กลางการสัญจรที่เชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนทั่วประเทศ แต่ละวันมีประชาชนเดินทาง ณ ที่แห่งนี้นับแสนคน จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งในการติดตั้งตู้ห่วงใยเพื่อให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่มีอาการเจ็บป่วยได้รับบริการตรวจรักษาเบื้องต้น และรับยาตามอาการ จัดส่งยาถึงบ้าน ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่   

 นพ.จเด็จ กล่าวว่า สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นพื้นที่มีความเหมาะสม หากประชาชนสิทธิบัตรทองเกิดปัญหาสุขภาพสามารถใช้สิทธิเข้ารับการดูแลเบื้องต้นได้ที่ตู้ห่วงใยครอบคลุมการรักษา 42 กลุ่มโรคได้ทันที อย่างไรก็ตามแม้ว่าตู้ห่วงใยจะเป็นนวัตกรรมบริการสุขภาพที่ดีอันทันสมัย

แต่การจะเข้าถึงบริการนี้ได้ ต้องได้รับความร่วมมือการเปิดพื้นที่ในจุดที่เหมาะสมเพื่อติดตั้ง อย่างที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์แห่งนี้ ซึ่งมีบริการทั้งรถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟเชื่อมต่อสนามบิน รวมถึงระบบขนส่งมวลชน ที่เป็นจุดร่วมสัญจรของผู้คนจำนวนมาก

"หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในส่วนพื้นที่สาธารณะอื่นๆ จะได้รับความร่วมมือเช่นเดียวกัน เพื่อให้ตู้ห่วงใยเป็นบริการสุขภาพที่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่ในการเป็นทางเลือกที่เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และใกล้ประชาชนที่จะใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับบริการได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย"นพ.จเด็จกล่าว  

ทั้งนี้ ปัจจุบันได้มีการติดตั้งบริการตู้ห่วงใยแล้วใน 4 พื้นที่ คือ ชุมชนเคหสถานเจริญชัยนิมิตใหม่ เคหะห้วยขวางศูนย์นวัตกรรม และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์(ขาออก) โดยหลังจากนี้จะเปิดบริการเพิ่มเติมที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์(ขาเข้า) และเคหะดินแดง    

ดร.พญ. เลิศลักษณ์ กล่าวว่า บริการตู้ห่วงใยนี้สอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งเน้นการสร้างระบบสุขภาพเมืองที่เข้มแข็ง ไม่เพียงแต่หน่วยบริการในสังกัดของกรุงเทพมหานคร ทั้งโรงพยาบาล 11 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง และสาขาศูนย์บริการสาธารณสุขอีก 77 แห่ง รวมถึงบริการเชิงรุกด้านสุขภาพต่างๆ

กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าสู่ Bangkok Health Zoning เต็มรูปแบบแล้วเท่านั้น แต่ได้ประสานกับหน่วยงานต่างๆ ในการเพิ่มเติมบริการสุขภาพรูปแบบต่างๆ เข้าสู่ระบบ ที่มีความสอดคล้องกับวิถีคนเมือง ซึ่งจะเป็นส่วนของขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ ที่หน่วยบริการปฐมภูมิของกรุงเทพมหานครได้     

“ตู้ห่วงใยนี้จะเป็นอีกนวัตกรรมบริการสุขภาพที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งทุกความร่วมมือของทุกฝ่ายในวันนี้ เชื่อมั่นจะขยายบริการไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อร่วมดูแลสุขภาพชาวกรุงเทพฯ ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในด้านสุขภาพ เมื่อยามเจ็บป่วย และเป็นทางเลือกบริการสุขภาพที่ช่วยเดินหน้านโยบายด้านสุขภาพให้กับกรุงเทพมหานครได้” ผอ.สำนักการแพทย์ กล่าว

ด้านชัชฎา กล่าวว่า บริษัท ทัช เทคโนโลยี จำกัด ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมสุขภาพดีให้กับประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับ สปสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ในการนำนวัตกรรมบริการสุขภาพตู้ห่วงใยมาให้บริการผู้ใช้สิทธิบัตรทอง เพียงแค่เสียบบัตรประชาชนที่หน้าตู้ห่วงใยเพื่อยืนยันการใช้สิทธิ จะได้รับการดูแลตั้งแต่การตรวจสุขภาพด้วยเทคโนโลยีการวิเคราะห์ที่แม่นยำพร้อมรับผลการตรวจทันที ทั้งการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง วัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด และวัดความดัน ที่เป็นการประเมินสภาวะของสุขภาพ

พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านระบบ VDO Call เพื่อรับคำแนะนำด้านสุขภาพที่เชื่อถือได้ และในกรณีที่ต้องได้รับยายังสามารถเลือกรับยาที่บ้านหรือรับยาที่ร้านยาที่เข้าร่วมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และอยู่ใกล้ ที่สำคัญยังเข้าถึงได้ง่ายไม่ต้องรอคิวรับบริการนาน ดังนั้นขอเชิญชวนประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง หากสะดวกที่ไหนก็สามารถเข้ารับบริการตู้ห่วงใยที่อยู่ใกล้ได้