ถอดรหัสกลุ่ม Quad สี่ประสานเล่นงานจีน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย ออกแถลงการณ์ร่วมในนามกลุ่มสี่ฝ่าย (Quad) แสดงความ “กังวลอย่างยิ่ง” ต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ก่อนหน้านั้นสหรัฐจับมือญี่ปุ่นออกแถลงการณ์วิจารณ์จีนและรัสเซียอย่างรุนแรง แน่นอนว่าจีนต้องตอบโต้
เมื่อวันจันทร์ (29 ก.ค.) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ พร้อมด้วย เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียสุพรหมยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย และโยโกะ คามิกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ลงนามในแถลงการณ์ร่วม ณ กรุงโตเกียว แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อจีนตรงๆ แต่กล่าวถึงการเผชิญหน้ากันหลายครั้งระหว่างเรือจีนกับฟิลิปปินส์ในน่านน้ำข้อพิพาททะเลจีนใต้
"เรากังวลอย่างยิ่งกับสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก จึงขอย้ำถึงการคัดค้านอย่างแข็งขันของพวกเราต่อการกระทำการใดๆ แต่เพียงฝ่ายเดียว เพื่อพยายามเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมด้วยการใช้กำลังหรือบีบบังคับ
เรายังคงกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับการวางกำลังทหารในจุดที่มีข้อขัดแย้ง รวมทั้งการเคลื่อนไหวข่มขู่กดดันในทะเลจีนใต้" กลุ่มสี่ฝ่ายระบุรวมถึงประณามการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่บั่นทอนเสถียรภาพด้วย
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของ Quad นับตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของ Quad ยังเบากว่าฉบับวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) หลังบลิงเคนและลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐหารือกับคู่เจรจาญี่ปุ่น
เมื่อไม่มีอินเดียและออสเตรเลียร่วมด้วย สหรัฐกับญี่ปุ่นก็ออกแถลงการณ์ใช้ถ้อยคำรุนแรงกว่าแถลงการณ์ Quad มาก มีการระบุชื่อแถมยังวิจารณ์ทั้งจีนและรัสเซีย กล่าวว่า นโยบายต่างประเทศของจีน “พยายามปรับเปลี่ยนระเบียบระหว่างประเทศเสียใหม่เพื่อผลประโยชน์ของตนเองด้วยค่าใช้จ่ายของคนอื่น”
แถลงการณ์ยังวิพากษ์วิจารณ์ “ความร่วมมือทางทหารเชิงยุทธศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นและยั่วยุ” ของรัสเซียกับจีนอีกด้วย
การที่สหรัฐกับญี่ปุ่นวิจารณ์รัสเซียเพียงสองประเทศไม่กระทำในนามกลุ่ม Quad เพื่อไม่ให้อินเดียกระอักกระอ่วน อินเดียพึ่งพาอาวุธจากรัสเซียอย่างมาก และเดือนนี้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี มีกำหนดพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินด้วย
ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้สหรัฐและญี่ปุ่นในวันจันทร์
“เราขอเรียกร้องอย่างแข็งขันให้สหรัฐและญี่ปุ่นหยุดแทรกแซงกิจการภายในของจีนทันที และหยุดสร้างศัตรูในจินตนาการ”
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวด้วยว่า แถลงการณ์ร่วมของสหรัฐและญี่ปุ่น “ไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง สับสนระหว่างสิ่งที่ผิดกับสิ่งที่ถูก และโจมตีนโยบายต่างประเทศจีนอย่างร้ายกาจ”
ด้านบลิงเคนและออสตินเมื่อเสร็จภารกิจที่ญี่ปุ่นก็มีกำหนดไปเยือนฟิลิปปินส์ ที่มีปัญหาพิพาทกับจีนในพื้นที่หลายส่วนของทะเลจีนใต้มายาวนาน
การปะทะกันรุนแรงจุดประกายความกังวลว่าวอชิงตันซึ่งเป็นพันธมิตรของมะนิลาจะถูกลากเข้ามาในความขัดแย้งนี้ด้วย เมื่อปักกิ่งพยายามอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด และเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเดินสายเอเชียยาวนานขนาดนี้ในช่วงที่จีนและรัสเซียกำลังกร้าวมากขึ้น เกมชิงอำนาจในเอเชียจึงเข้มข้นทุกขณะ