ย้อนรอยหนึ่งเดือนเปลี่ยนชีวิต ‘คามาลา แฮร์ริส’
ที่ประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตเสนอชื่อคามาลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นการปิดฉากเดือนแห่งความโกลาหลที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน บ่ายวันที่ 21 ก.ค. ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พลิกโฉมศึกชิงทำเนียบขาวด้วยการประกาศผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า เขาจะไม่ลงเลือกตั้งอีกแล้ว หลังจากประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกเมื่อปลายเดือน มิ.ย.กับโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน แต่ไบเดนวัย 81 ปีสู้ไม่ได้ จึงเกิดเสียงเรียกร้องอย่างหนักจากแกนนำพรรคเดโมแครตให้เขาถอนตัว ซึ่งสุดท้ายไบเดนต้านทานไม่ไหวต้องยอมตามนั้น
คำประกาศของไบเดนส่งคลื่นกระแทกไปทั่วประเทศ ที่เพิ่งหายตื่นตระหนกจากความพยายามลอบสังหารทรัมป์ก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์
27 นาทีหลังโพสต์แรก ไบเดนโพสต์สนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริส วัย 59 ปี ให้เป็นตัวแทนพรรคลงแข่งกับทรัมป์ ในวันที่ 5 พ.ย.
“การตัดสินใจแรกของผมในฐานะตัวแทนพรรคเมื่อปี 2563 คือเลือกคามาลา แฮร์ริสมาเป็นรองประธานาธิบดี นั่นคือการตัดสินใจดีที่สุดที่ผมเคยทำ วันนี้ผมขอสนับสนุนอย่างเต็มที่และรับรองคามาลาให้เป็นตัวแทนพรรคปีนี้”
แฮร์ริสขอบคุณไบเดนสำหรับ “การเป็นผู้นำอันยอดเยี่ยม” ของเขา และว่าเธอ “ได้รับเกียรติ” ที่เขาสนับสนุน พร้อมให้คำมั่น “จะทำทุกอย่างเท่าที่มีอำนาจหลอมรวมพรรคเดโมแครตและสร้างความสามัคคีในชาติ เพื่อเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์”
บรรดาผู้ว่าการรัฐ สมาชิกวุฒิสภา อดีตคู่แข่ง ฝ่ายหัวก้าวหน้าและสายกลางต่างพากันสนับสนุนเธอภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง สะท้อนถึงความสามัคคีภายในพรรคอย่างเห็นได้ชัด
แต่ดูเหมือนว่าดัก เอ็มฮอฟฟ์ สามีของคามาลา ไม่ได้รู้เรื่องตั้งแต่แรกว่า ภรรยาจะได้ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ตอนมีข่าวว่าไบเดนถอนตัวแล้วหันมาสนับสนุนแฮร์ริส เอ็มฮอฟฟ์อยู่ในคลาสออกกำลังกายที่ลอสแองเจลิส จบคลาสได้มีโอกาสหยิบโทรศัพท์จึงเห็นว่ามีมิสคอลหลายสายรวมทั้งจากภรรยา
“ต่อไปผมจะไม่ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถอีกแล้ว” เจ้าตัวกล่าวติดตลก
- ต้องสู้จึงจะชนะ
อีกแค่สามเดือนก็จะถึงวันเลือกตั้ง แฮร์ริสทุ่มเทหาเสียงอย่างหนักภายใต้สโลแกน “ต้องสู้จึงจะชนะ” (When we fight, we win)
“เราจะอธิบายเรื่องของเราต่อคนอเมริกัน และเราจะชนะ” แฮร์ริสกล่าวกับทีมหาเสียงในเดลาแวร์ ยอมรับถึง “อารมณ์อันหลากหลาย” ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนรถไฟเหาะของผู้คนในช่วงที่ผ่านมา
แฮร์ริสยังใช้ทีมหาเสียงของไบเดน จัดโครงสร้างแบบเดิม ใช้สำนักงานเดิมโลโกอันเดียวกัน แต่เนื้อหาสาระแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เธอพยายามแสดงให้เห็นถึงความตรงกันข้ามระหว่างประสบการณ์ในฐานะอดีตทหนายความและอัยการรัฐแคลิฟอร์เนีย กับสถานะของทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีคนแรกที่โดนคดีอาญา ทั้งยังชี้ให้เห็นถึงอายุที่แตกต่าง ทรัมป์แก่กว่าเธอเกือบ 20 ปี มุกนี้ที่ทรัมป์เคยเล่นงานไบเดนหนักมาก่อน ว่าเสื่อมถอยทั้งร่างกายและจิตใจ แก่เกินไปที่จะเป็นประธานาธิบดี
การเข้าสู่สนามเลือกตั้งของแฮร์ริสทำให้เงินบริจาคหลั่งไหลเข้ามาถึง 100 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลา 48 ชั่วโมง กระแสคลั่งไคล้ไม่ได้ปรากฏชัดแค่ในโพล แต่งานหาเสียงแต่ละครั้งผู้คนมาเชียร์กันอุ่นหนาฝาคั่ง
ต้นเดือน ส.ค. คณะผู้เลือกตั้งเกือบ 4,000 คนลงคะแนนทางอิเล็กโทรนิกส์เลือกแฮร์ริสเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต วันที่ 6 ส.ค. เธอเลือกทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินิโซตา วัย 60 ปีเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี
วอลซ์ อดีตครูสอนภูมิศาสตร์โรงเรียนมัธยมปลายและโคชฟุตบอล และแฮร์ริส จูงมือไปหาเสียงในห้ารัฐสมรภูมิที่จะเป็นรัฐตัดสินผลการเลือกตั้งทันที
วันพฤหัสบดี (22 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น แฮร์ริสรับตำแหน่งตัวแทนพรรคในการประชุมใหญ่ที่ชิคาโก หลังจากนี้เธอต้องตะลุยหาเสียงอย่างหนักหน่วงจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง