กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม

กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม

เอ่ยชื่อประเทศอิรัก คนฟังร้อยทั้งร้อยต้องคิดถึงภาพสงคราม ไล่มาตั้งแต่สงครามอิรัก-อิหร่าน สงครามคูเวต สงครามสหรัฐต้านก่อการร้าย ช่วงทศวรรษล่าสุดเกิดการขยายอิทธิพลของกลุ่มรัฐอิสลามไอเอส หากจะพูดถึงการค้าการลงทุนแทบนึกไม่ออก แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วอิรักคือโอกาสสำคัญของไทย

KEY

POINTS

  • กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ) ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน  นำคณะนักธุรกิจไทย เดินทางเยือนประเทศอิรักที่กรุงแบกแดดและเมืองเออบิล ระหว่างวันที่ 25-30 สิงหาคม 2567
  • รัฐบาลอิรักต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี เปิดให้เห็นโอกาสที่อิรักมีให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก
  • ภาคธุรกิจไทยจากภาคส่วนก่อสร้าง อาหาร ความงามและสุขภาพ เจรจาจับคู่ธุรกิจ (business matching) กับฝ่ายอิรักถือเป็นประตูบานแรกในการเปิดศักราชใหม่ เตรียมเฉลิมฉลอง 70 ปีความสัมพันธ์ไทย-อิรักในปี 2569

 

เอ่ยชื่อประเทศอิรัก คนฟังร้อยทั้งร้อยต้องคิดถึงภาพสงคราม ไล่มาตั้งแต่สงครามอิรัก-อิหร่าน สงครามคูเวต สงครามสหรัฐต้านก่อการร้าย ช่วงทศวรรษล่าสุดเกิดการขยายอิทธิพลของกลุ่มรัฐอิสลามไอเอส หากจะพูดถึงการค้าการลงทุนแทบนึกไม่ออก แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วอิรักคือโอกาสสำคัญของไทย

กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ) ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน ร่วมกันดำเนินโครงการนำคณะนักธุรกิจไทยรวมทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางเยือนประเทศอิรักที่กรุงแบกแดดและเมืองเออร์บิล เพื่อสำรวจลู่ทางการค้า การลงทุน และเจรจาธุรกิจ เยือนอิรักระหว่างวันที่ 25-30 สิงหาคม 2567 เห็นภาพความกระตือรือร้นของทั้งสองฝ่ายที่ต้องการเชื่อมต่อกันอย่างแน่นแฟ้นอีกครั้งหนึ่ง

เริ่มต้นจากวันที่ 26 ส.ค. สุภาค โปร่งธุระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน ซึ่งดูแลทั้งจอร์แดน อิรัก และรัฐปาเลสไตน์นำทัพนักธุรกิจเข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการก่อสร้าง การเคหะ เทศบาล และงานสาธารณะ กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม

Dr Hisham Al-Alawi รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลอิรักต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี เปิดให้เห็นโอกาสที่อิรักมีให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตลาดเอเชียมีความสำคัญมากแม้อิรักมีจีนและอินเดียเป็นคู่ค้าหลักอยู่แล้วแต่ก็ยังต้องการขยายตลาดไปยังประเทศเอเชียอื่นๆ สำหรับไทยมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด และอิรักรอให้ไทยมาเปิดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแบกแดดอีกครั้ง

ในช่วงบ่ายภาคธุรกิจไทยแปดบริษัทจากภาคส่วนก่อสร้าง อาหาร ความงามและสุขภาพ เจรจาจับคู่ธุรกิจ (business matching) กับฝ่ายอิรักที่มากันราว 150 คน กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม

กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม

ทูตสุภาคสรุปภาพรวมการเยือนแบกแดดว่า ประสบความสำเร็จด้วยดี การเข้าพบรัฐมนตรีสามกระทรวงได้รับการสนับสนุนจากผู้กำหนดนโยบายระดับสูง ในการรุกและกระชับความสัมพันธ์กับภาคเอกชนไทยให้มาทำธุรกิจในอิรัก และให้ภาคเอกชนอิรักขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยความร่วมมือกับภาคเอกชนไทย เห็นได้จากงาน Business matching มีตัวแทนระดับสูงจากทุกหน่วยงานมาร่วมเวทีให้ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางอิรัก กรมศุลกากร กระทรวงเกษตร สำนักงานควบคุมคุณภาพสินค้า  กรมสรรพากร ทุกคนพูดตรงกันเรื่องการทำให้การทำธุรกิจในอิรักง่ายขึ้น โปร่งใส คาดหวังได้

“จริงๆ แล้ววันนี้เป็นการจับมือ เห็นหน้าค่าตากัน  เพราะหลังจากนี้สามารถติดต่อผ่านวีดิโอคอลกันได้ แต่ที่สำคัญคือต้องมีก้าวแรก นี่คือก้าวแรกที่กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน ให้การสนับสนุน เราเป็นผู้เปิดประตู ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง พระเอกตัวจริงคือภาคเอกชน”

                   เปิดเสน่ห์อิรัก

          ทูตกล่าวว่า อิรักเป็นประเทศที่ผู้คนมีอัธยาศัยไมตรี จิตใจต้อนรับชาวต่างชาติ กระตือรือร้นที่จะดำเนินธุรกิจ มีความเป็นอินเตอร์อยากทำธุรกิจกับต่างชาติโดยเฉพาะกับภาคเอกชนไทย คนอิรักชอบไปประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นฮันนีมูน รักษาพยาบาล

“เรามีต้นทุนเดิมที่ดีก่อนที่เขาจะมีสงครามแล้วก็ห่างหายกันไป แต่ภาพจำของเขาเกี่ยวกับประเทศไทยยังคงเป็นภาพจำดีๆ ตรงนี้ถือเป็นแต้มต่อ เมื่อมาเจอคนไทยก็พร้อมจะอ้าแขนรับ และทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา”  

เปิดวาระเร่งด่วน

สิ่งที่เป็นวาระเร่งด่วนระหว่างไทยกับอิรักที่ต้องทำในปีนี้คือ  แลกเปลี่ยนร่างความตกลงเอ็มโอยูเกี่ยวกับการยกเว้นวีซ่าหนังสือเดินทางทูตและราชการ ซึ่ง รมช.ต่างประเทศอิรักกล่าวว่า จะเป็นพื้นฐานสู่การยกเว้นวีซ่าให้กับประชาชนทั่วไป, ร่างกรอบข้อตกลงจัดตั้งกรอบการหารือด้านการเมือง (political consultation), ผลักดันการประชุมคณะกรรมาธิการการค้าร่วม (Joint Trade Committee: JTC) ซึ่งมีอยู่แล้วแต่ห่างหายกันไป ให้เกิดขึ้นในปีนี้ และ   การเยือนไทยของรองนากรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิรัก  เดิมมีกำหนดการไว้แล้วแต่เกิดเหตุฉุกเฉินบางอย่างทำให้ต้องเลื่อนออกไป

ทูตไทย ณ กรุงอัมมานย้ำว่า วาระเร่งด่วนดังกล่าวทั้งหมดจะนำไปสู่พลวัตที่ดีเนื่องจากอีกสองปีจะครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อิรัก

หนทางทำ FTA

          ทูตสุภาคเผยว่า ภาคเอกชนไทยที่มาวันนี้และภาคเอกชนอิรักที่เคยไปเยือนไทย ต่างมีส่วนสำคัญในการเรียกร้องให้เปิดการเจรจาเอฟทีเอระหว่างกัน ซึ่งต้องเริ่มต้นจากการสร้างพื้นฐานการค้าทั้งในแง่ปริมาณและความตื่นตัว หลังจากนั้นเอฟทีเอจะตามมาเองโดยธรรมชาติ

ไทยได้เปรียบดุลการค้าสูงมาก

          การค้าระหว่างไทยกับอิรักในปีที่ผ่านมามูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์  ส่วนใหญ่อิรักเป็นฝ่ายนำเข้า ไทยได้เปรียบดุลการค้าอิรักสูงมากเกือบ 100% สิ่งที่ไทยนำเข้าจากอิรักเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน    กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม

อิรักเป็นประเทศนำเข้าข้าวจากไทยเป็นอันดับต้นๆ มาโดยตลอด   ตลาดข้าวของอิรักจึงเป็นตลาดสำคัญ ซึ่งทูตสุภาคได้ยืนยันกับรัฐมนตรีการค้าอิรักไปแล้วว่า ไทยจะรับรองด้านคุณภาพและความแน่นอนในการจัดส่ง กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม

โครงสร้างพื้นฐานคือโอกาส

ทั้งนี้  ทูตสุภาคสรุปการหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงก่อสร้างอิรักว่า อิรักเป็นประเทศที่ผ่านสงคราม ขณะนี้มีเสถียรภาพจำต้องปฏิรูปประเทศ  ต้องการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทุกโหมดการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ท่าเรือ สนามบิน และบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสสำหรับภาคเอกชนไทย ปีงบประมาณหนึ่งอิรักตั้งงบประมาณรายจ่ายภาครัฐไว้ราว 1.62-1.65 แสนล้านดอลลาร์ เกินครึ่งจัดไว้สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการแก้ปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร ไทยเป็นครัวของโลกอยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสที่เอกชนไทยต้องรีบคว้าเอาไว้ เพราะประเทศอื่นๆ จากอาเซียนเข้ามาแล้ว ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนามกำลังจะมา เพราะฉะนั้นภาคเอกชนไทยก็ต้องกระตือรือร้น

อิรักปลอดภัยมีเสถียรภาพ

Hamed Aljeboori อธิบดีกรมเอเชียและออสเตรเลีย อดีตเอกอัครราชทูตอิรักประจำมาเลเซีย ไทย และบรูไน กล่าวบนเวทีให้ข้อมูลผู้ประกอบการชาวไทยว่า มีโอกาสอย่างยิ่งที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอิรักกับไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะมีรากฐานที่ลึกซึ้งอยู่แล้วตั้งแต่ในอดีต สมัยที่ตนเป็นเอกอัครราชทูต แต่ช่วงโควิด-19 ระบาดทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดชะงักไป ตอนนี้ถือว่ามีโอกาสที่จะต่อยอดความสัมพันธ์โดยเฉพาะเป็นช่วงที่อิรักต้องการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน จึงอยากให้ประเทศอย่างไทยเข้ามามีส่วนร่วม กต.นำทัพเอกชนบุกอิรัก คว้าโอกาสฟื้นฟูหลังสงคราม อธิบดีกรมเอเชียและออสเตรเลียย้ำถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์คณะกรรมการการค้าร่วมอิรัก-ไทยอีกครั้งหลังจากหยุดไปนาน  เพื่อเป็นเวทีให้อิรักกับไทยหารือกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ข้อตกลงด้านความมั่นคง เกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และอื่นๆ ตนมีความหวังอย่างมากกับงาน business matching ที่จะสร้างความเป็นหุ้นส่วนที่ดีระหว่างอิรักกับไทย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน และอยากให้มีการจัดงานแบบนี้ต่อไปอีก ซึ่งเป็นการสื่อวิสัยทัศน์ที่แท้จริงหรือภาพจริงของอิรักไปสู่คนไทยว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยมีเสถียรภาพ

          “เพราะคุณค่าของการลงทุนนั้นเราเชื่อว่า ใครมาด้วยความศรัทธาก็จะได้ประโยชน์ก้อนใหญ่ เช่น เกาหลีใต้เชื่อมั่นในอิรักมาก เข้ามาตั้งแต่อะไรๆ ยังไม่ดี ถึงตอนนี้ได้สัญญาการลงทุนไปมากมาย” อธิบดีกรมเอเชียและออสเตรเลีย  ของอิรักกล่าว