'JP Morgan' เตือน! วิกฤติอสังหาฯ จีนยังไม่จบ มาตรการรีไฟแนนซ์ไม่ใช่ทางออก
วิกฤติตลาดอสังหาฯ จีนยังคงลากยาว! มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลยังไม่สามารถพยุงให้ฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ JP Morgan เตือน ราคาบ้านในจีนจะยังคงไร้เสถียรภาพอย่างน้อยจนถึงปี 2025
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานอ้างมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ของ JPMorgan ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน มีแนวโน้มเผชิญ “ปัญหาอ่อนตัว” ต่อไป เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนของรัฐบาลจำนวนมาก “ยังไม่น่าพอใจ” ในการพยุงภาคอุตสาหกรรมนี้
“วิกฤติตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนยังไม่จบ” ไห่ปิน จู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของ JPMorgan กล่าวกับรายการ Squawk Box Asia ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ พร้อมเสริมว่าราคาบ้านในจีนจะอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพจนถึงปี 2025 อย่างเร็วที่สุด
ข้อมูลที่เผยแพร่โดย China Index Academy ระบุว่า ราคาเฉลี่ยของการขายบ้านใหม่ใน 100 เมืองของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 0.11% จากเดือนกรกฎาคม ซึ่งชะลอตัวลงจากการเติบโต 0.13% ในเดือนมิถุนายน ส่วนราคาบ้านมือสองลดลง 0.71% จากเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ ทั้งบ้านใหม่ และบ้านมือสองมีราคาเฉลี่ยลดลง 1.76% และ 6.89% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศยังคงตกอยู่ในภาวะวิกฤติรุนแรง
เมื่อวันเสาร์ (31 ส.ค.67) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า จีนกำลังพิจารณาแผนลดต้นทุนการกู้ยืมของเจ้าของบ้านโดยอนุญาตให้รีไฟแนนซ์ได้ถึง 5.4 ล้านล้านดอลลาร์ ในเงินกู้จำนอง แต่บรรดานักวิเคราะห์ยังคงกังขาว่า มาตรการที่รัฐบาลเสนอจะได้ผลในการกระตุ้นความรู้สึกของผู้ซื้อบ้าน และการบริโภคโดยรวมหรือไม่
“บางคนมองว่า การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองจะกระตุ้นให้ผู้คนหันมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่ความคิดเห็นนี้ยังไม่ครอบคลุมภาพรวมทั้งหมด” วินนี วู หัวหน้านักกลยุทธ์หุ้นจีนของ BofA Securities กล่าว “เพราะเมื่อธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองลง ก็จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงด้วย เพื่อรักษาอัตรากำไร และเสถียรภาพของระบบการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนได้รับดอกเบี้ยจากเงินฝากน้อยลงตามไปด้วย”
“การลดอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่นโยบายที่ดีที่สุด การบีบอัตรากำไรของธนาคารจะไม่ไปไกล” วินนี วู กล่าวต่อ พร้อมเสริมว่ารัฐบาลจำเป็นต้อง “สร้างวงจรป้อนกลับเชิงบวกมากกว่าการหมุนวนลง”
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ของ JPmorgan ได้วิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจจีนว่า “แม้ว่านโยบายรีไฟแนนซ์เงินกู้จำนองจะเกิดขึ้นจริง แต่ก็ไม่ใช่นโยบายที่จะฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับความต้องการบ้านใหม่ โดยหลักแล้วจะเป็นประโยชน์แก่เจ้าของบ้านที่มีอยู่”
อ้างอิง: cnbc
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์