วัดน้ำยาสหรัฐป้องสงครามตะวันออกกลางบานปลาย

วัดน้ำยาสหรัฐป้องสงครามตะวันออกกลางบานปลาย

สงครามกาซาที่ดำเนินมาเกือบหนึ่งปี เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญสูงสุดที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ พยายามป้องกันไม่ให้บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งใหญ่ในภูมิภาค

KEY

POINTS

  • อีกไม่กี่สัปดาห์สหรัฐจะมีการเลือกตั้ง และไบเดนเองกำลังกล่าวคำอำลาต่อที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) อิสราเอลยังถล่มเลบานอน
  • ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน พัฒนาการเร็วเกินกว่าสหรัฐควบคุมได้
  • การที่สหรัฐส่งทหารมาเพิ่มในตะวันออกกลาง อิสราเอลตีความได้ว่านั่นคือความรับผิดชอบต่อพันธมิตรรายนี้ จึงฮึกเหิมมากขึ้น

อีกไม่กี่สัปดาห์สหรัฐจะมีการเลือกตั้ง และไบเดนเองก็กำลังกล่าวคำอำลาต่อที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) อิสราเอลยังถล่มเลบานอน ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (23 ก.ย.) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 492 คน มากที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ ตอกย้ำว่าคำเตือนของไบเดนไม่เป็นผล

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในวันเดียวกันนั้นไบเดนได้พบกับผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยืนยันว่ารัฐบาลของตนยังคง “ทำงานเพื่อลดความขัดแย้ง” ด้วยการประสานกับรัฐบาลต่างๆ

เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งกล่าวนอกรอบยูเอ็นจีเอว่า รัฐบาลไบเดนกำลังนำเสนอ “แนวคิดอันเป็นรูปธรรม” เพื่อหา “หนทาง” ป้องกันไม่ให้มีการสู้รบและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้วยการทูต

แต่สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงเร็วเกินกว่าสหรัฐควบคุมได้ สัปดาห์ก่อนตอนเกิดเหตุเพจเจอร์หลายพันเครื่องระเบิดทั่วเลบานอนพุ่งเป้าฮิซบอลเลาะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง สหรัฐกล่าวว่าไม่ทราบล่วงหน้าถึงปฏิบัติการที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่าเกี่ยวข้องกับอิสราเอล ทั้งยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ

แต่อิสราเอลก็เพิ่มการโจมตีอย่างรวดเร็ว ในวันจันทร์ (23 ก.ย.) แถลงว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาได้ถล่มพื้นที่ฮิซบอลเลาะห์ 1,000 แห่ง ทางการเลบานอนระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 492 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 35 คน

นับตั้งแต่ฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน กระตุ้นให้อิสราเอลโจมตีกาซาไม่หยุด นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ไม่สนใจคำเตือนถึงอันตรายหากเกิดสงครามระดับภูมิภาค และว่าเป้าหมายประเทศของตนคือเปลี่ยนแปลง “สมดุลความมั่นคง” กับเลบานอนที่เป็นเพื่อนบ้านทางตอนเหนือ

ปฏิบัติการในเลบานอนเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากความพยายามทางการทูตนำโดยสหรัฐเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซาล้มเหลว เนทันยาฮูยืนกรานว่า ต้องมีทหารอิสราเอลบริเวณพรมแดนกาซา-อียิปต์ และเห็นไม่ตรงกับฮามาสเรื่องการปล่อยตัวนักโทษ

ไมเคิล ฮันนา ผู้อำนวยการโครงการสหรัฐของกลุ่มวิกฤติระหว่างประเทศ กล่าวว่า นักการทูตสหรัฐต้องการความสงบในเลบานอนเพื่อให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกาซา ซึ่งความพยายามนี้ “ดูเหมือนสิ้นหนทาง และความพยายามอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อบรรลุข้อตกลงระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลขณะที่สงครามกาซายังดำเนินต่อไป พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถึงทางตัน”

สิ่งที่ทำให้ปฏิทินการเมืองของสหรัฐยุ่งยากยิ่งขึ้นไปอีกคือคามาลา แฮร์ริส ทายาททางการเมืองของไบเดนต้องติดอยู่กับการแข่งขันอันดุเดือดกับโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พ.ย.

ขณะที่ไบเดนและแฮร์ริสต้องการหลีกเลี่ยงสงครามใหญ่และความรู้สึกโกลาหล มีไม่กี่คนที่เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐจะดำเนินมาตรการใหญ่กับอิสราเอล เนื่องจากจะเกิดความเสี่ยงต่อการเมืองภายในเพราะวันเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว

“ไม่ใช่เรื่องเหนือจินตนาการที่ว่า ปฏิทินการเมืองสหรัฐอาจมีผลต่อการตัดสินใจของอิสราเอลว่าจะขยายวงเข้าสู่เลบานอนเมื่อใด” ฮันนากล่าว

เจมส์ เจฟฟรีย์ อดีตทูตสหรัฐประจำอิรักและตุรกี ผู้มีท่าทีแข็งกร้าวต่ออิหร่าน กล่าวว่า ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐส่งเสริมการหยุดยิงมาโดยตลอด แต่เนทันยาฮูก็เหมือนกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่กังวลเรื่องความมั่นคงของประเทศตนมากกว่า

“เราอยู่ในสงครามภูมิภาคอยู่แล้ว อยู่มาตลอด 20 ปี อิหร่านกำลังถูกกดดันและสูญเสียตัวแทนหลักหนึ่งรายอย่างน้อยก็ชั่วขณะหนึ่ง นั่นก็คือฮามาส ส่วนฮิซบอลเลาะห์กำลังตึงเครียดเนทันยาฮูให้ความสำคัญกับการกลับมาใช้การป้องปรามและการทหารอีกครั้งหนึ่ง เหนือกว่าการทำอย่างอื่น เช่น เอาใจวอชิงตันและประชาคมระหว่างประเทศ” เจฟฟรีย์กล่าว ณ ศูนย์วิลสันในวอชิงตัน

  • การสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐ

ไบเดนแสดงความกังวลกับเนทันยาฮูเสมอมาเรื่องชะตากรรมของพลเรือนในกาซา แต่ยังไม่ใช้ไม้เด็ดของสหรัฐนั่นคือการชลอความช่วยเหลือทางทหารหลายพันล้านดอลลาร์ต่ออิสราเอล

กระทรวงกลาโหมแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐจะส่งทหารเข้าไปเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง ท่าทีที่อิสราเอลถือว่าเป็นสัญญาณความรับผิดชอบของสหรัฐต่อพันธมิตรหากความขัดแย้งขยายวง

นอกจากนี้ความเงียบเฉยของวอชิงตันกับการกระทำที่เชื่อว่าเป็นฝีมืออิสราเอล เช่น การลอบสังหารผู้นำการเมืองของฮามาสขณะเยือนกรุงเตหะรานในเดือน ก.ค. อาจทำให้อิสราเอลฮึกเหิมขึ้นได้

ประธานาธิบดีมาซุด เปเซชคิยัน ที่กำลังเข้าร่วมการประชุมยูเอ็น กล่าวหาอิสราเอลพยายามขยายวงความขัดแย้ง ขณะที่รัฐบาลเตหะรานแสดงให้เห็นถึงความอดทนอดกลั้น เนื่องจากรับรองไว้แล้วว่าต้องได้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซา

“พวกเขาได้แต่บอกเราว่า ใกล้บรรลุสันติภาพแล้ว เผลอๆ อาจเป็นหนึ่งสัปดาห์หรือประมาณนั้น แต่เราไม่เคยบรรลุสันติภาพอันยากเย็นนั้นได้สักที” ประธานาธิบดีอิหร่านที่ถูกมองว่าเป็นนักปฏิรูป กล่าวกับผู้สื่อข่าวในนิวยอร์ก