กลุ่มแบงก์ใหญ่คาด 'ราคาทอง' พุ่งยาวถึงปีหน้า กรอบ 2,700-3,000 ดอลลาร์

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งต่างคาดการณ์ว่า 'ราคาทองคำ' จะเป็นขาขึ้นวิ่งยาวถึงปีหน้า 2025 ซึ่งให้กรอบที่ประมาณ 2,700 - 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ จากปัจจัยที่ธนาคารกลางต่างๆ จะเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจากการที่กองทุน ETF ทองคำเริ่มฟื้นตัวมีทุนไหลเข้าอย่างแข็งแกร่ง
 

"อุปสงค์ทองคำจริงที่แข็งแกร่งจากจีน และธนาคารกลางทั่วโลก ช่วยหนุนราคาทองตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่กระแสทุนไหลเข้า และการจัดตั้งบรรดากองทุน ETF ที่เน้นรายย่อยนั้น จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำรักษาระดับความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องได้ ในช่วงวัฏจักรการลดดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต" ทีมนักวิเคราะห์ของธนาคารเจพีมอร์แกน ระบุ

เฉพาะในปี 2024 นี้ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วถึงเกือบ 570 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้นถึงกว่า 27% ทำให้คาดว่าปีนี้อาจเป็นปีที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงที่สุดในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่ปี 2010 และเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดของปีนี้ โดยราคาพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดทุบสถิติใหม่ที่ 2,639.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันอังคารที่ 24 ก.ย.67 ที่ผ่านมา และตลอดทั้งปีนี้มีการทำสถิติใหม่ไปแล้วหลายครั้ง  

"แม้ว่าราคาทองคำจะพุ่งทำนิวไฮใหม่หลายครั้งในปีนี้ และทำผลงานได้ดีกว่าดัชนีหุ้นหลักๆ แต่เราเชื่อว่าราคาทองยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อีกมากในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า" นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอส กล่าวและเสริมว่า ปัจจัยสำคัญที่ช่วยดันราคาทองก็คือ การฟื้นตัวของกระแสเงินไหลเข้าจำนวนมากสู่กองทุน ETF หลังจากที่ขาดหายไปตั้งแต่เดือนเม.ย.2022

ทั้งนี้ เฟดเริ่มผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้วด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% และคาดว่าจะปรับลดอีก 0.50% ภายในปีนี้ และอีก 1.00% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย มักเป็นการลงทุนที่ตลาดต้องนิยมในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ และในช่วงที่เกิดความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.67 นี้ อาจผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากความผันผวนของตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งจะผลักดันให้นักลงทุนหันไปซื้อทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

สำหรับราคาเป้าหมายในปี 2025 ของแบงก์อื่นๆ ที่น่าสนใจ มีดังนี้ 

• ANZ - 2,805 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยคาดว่าราคาอาจพุ่งไปแตะ 2,900 ดอลลาร์ได้ภายในสิ้นปีหน้า
   
• BofA - 2,750 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยให้กรอบว่าอาจขึ้นไปแตะถึง 3,000 ดอลลาร์
   
• J.P.Morgan - 2,775 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาอาจพุ่งไปถึง 2,850 ดอลลาร์
   
• Citi Research - 2,875 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยคาดการณ์อยู่ที่ระหว่าง 2,800-3,000 ดอลลาร์
   
• Goldman Sachs - ไม่มีราคาเป้าหมาย แต่คาดว่าจะขึ้นไปแตะ 2,700 ดอลลาร์ ภายในช่วงต้นปีหน้า
   
• UBS - ไม่มีราคาเป้าหมาย แต่คาดว่าจะขึ้นไปแตะ 2,700 ดอลลาร์ ภายในช่วงกลางปีหน้า
   

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์