‘เนทันยาฮู’หวัง’ทรัมป์’ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

‘เนทันยาฮู’หวัง’ทรัมป์’ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู มีแนวโน้มอยากให้โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับคืนสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ตอนที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีส่งผลดีต่อเนทันยาฮู และเมื่อวันเลือกตั้งสหรัฐ 5 พ.ย. ใกล้เข้ามา อดีตประธานาธิบดีกล่าวถึงนโยบายตะวันออกกลางอย่างไร้ทิศทาง ตั้งแต่กระตุ้นให้เนทันยาฮูระเบิดโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอิสราเอลไม่ได้ทำในการโจมตีเมื่อวันเสาร์ (26 ต.ค.) ไปจนถึงการวิจารณ์ผู้นำอิสราเอล ระบุ “การโจมตีวันที่ 7 ต.ค.จะไม่มีวันเกิดขึ้นถ้าผมเป็นประธานาธิบดี” และเขาจะกดดันอิสราเอลให้ยุติสงคราม

ด้วยนโยบายที่ไม่ชัดเจน ผสานกับสโลแกนหาเสียง “ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ของทรัมป์ เหล่านักวิเคราะห์กล่าวว่า ได้สร้างความหวังให้กับเนทันยาฮู

ในฐานะผู้นิยมแยกสหรัฐออกจากโลก การเป็นประธานาธิบดีสหรัฐของทรัมป์อาจทำให้เนทันยาฮูมีเสรีภาพมากขึ้นในการนำทางความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ในกาซาและเลบานอน

“หมุดหมายหนึ่งของเนทันยาฮูคือการเลือกตั้งสหรัฐ เขาภาวนาให้ทรัมป์ชนะ ที่เขาคิดว่าจะทำให้ตนเองเคลื่อนไหวได้เสรีมากขึ้น ปล่อยให้เขาทำอย่างที่ปรารถนา” จิดอน ราฮัต  อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเยรูซาเล็ม กล่าวกับเอเอฟพี

อาวีฟ บูชินสกี นักวิเคราะห์การเมืองและอดีตหัวหน้าคณะทำงานของเนทันยาฮู กล่าวในทำนองเดียวกัน

“เขามีประสบการณ์ที่ดีมากกับพรรครีพับลิกัน แต่เดโมแครตเข้มงวดกับเขามากกว่า”

สัมพันธ์ส่วนตัวใกล้ชิด

ช่วงที่เป็นประธานาธิบดี ความเคลื่อนไหวหลายอย่างของทรัมป์หนุนจุดยืนในประเทศของเนทันยาฮู พร้อมๆ กับพลิกผันนโยบายสหรัฐต่ออิสราเอลที่เคยมีมายาวนาน รวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์และภูมิภาคในวงกว้าง

ทรัมป์ย้ายสถานทูตสหรัฐไปอยู่เยรูซาเล็ม ที่อิสราเอลอ้างว่าเป็นเมืองหลวงที่แบ่งแยกมิได้ของตน, ยอมรับอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลาน และดูแลการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของสามรัฐอาหรับกับอิสราเอล

นอกจากนี้ทรัมป์ยังถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับประวัติศาสตร์กับอิหร่าน คู่อริของอิสราเอล และออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด

ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แม้ยืนยันว่า “สนับสนุนอิสราเอลไม่เสื่อมคลาย” แต่มีสัมพันธ์เย็นชากับเนทันยาฮูมานาน และเตือนเนทันยาฮูไม่ให้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์และคลังน้ำมันอิหร่าน ซึ่งตรงข้ามกับทรัมป์

ไม่เพียงเท่านั้น ทรัมป์และเนทันยาฮูยังสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว  อดีตประธานาธิบดีอวดว่าสัปดาห์นี้ได้คุยโทรศัพท์กับนายกฯ อิสราเอลหลายครั้ง

“เราสนิทกันมาก เราจะทำงานร่วมกับพวกเขาแบบใกล้ชิดกันมากๆ” ทรัมป์กล่าวในการหาเสียงที่จอร์เจีย

บูชินสกีกล่าวว่า สิ่งดีๆ เหล่านี้มากเกินกว่าข้อกังวลใดๆ

“ผมคิดว่าเนทันยาฮูจะยินดียอมรับความเสี่ยงจากการเป็นคนเดาทางได้ยากของทรัมป์”

ทรัมป์ดังในอิสราเอล

ทรัมป์ไม่ใช่แค่โด่งดังเฉพาะกับเนทันยาฮู สาธารณชนอิสราเอลชื่นชอบเขามากด้วย

ผลสำรวจในเดือน ก.ย.โดยมิตวิม สถาบันอิสราเอลศึกษานโยบายต่างประเทศในระดับภูมิภาค พบว่า ชาวอิสราเอล 68% มองว่า ทรัมป์เป็นผู้สมัครที่จะตอบสนองผลประโยชน์ของอิสราเอลได้ดีที่สุด

มีเพียง 14% เท่านั้นที่เลือกรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส แม้เธอจะประกาศสนับสนุนอิสราเอลและสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลไปแล้วก็ตาม

“ในอิสราเอล ทรัมป์ได้รับความนิยมมากกว่าแฮร์ริส มากยิ่งกว่าประเทศเสรีประชาธิปไตยอื่นๆ นอกสหรัฐ” นาดาฟ ทามีร์ อดีตนักการทูตอิสราเอลประจำสหรัฐ และสมาชิกกรรมการบริหารมิตวิมกล่าวกับเอเอฟพี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลใหม่ของทรัมป์อาจมาพร้อมด้วยเซอร์ไพรส์ก็ได้

เพราะรอบตัวอดีตประธานาธิบดีรายนี้มีแต่คนรีพับลิกัน “ที่นิยมโดดเดี่ยวตนเอง ไม่ต้องการให้สหรัฐเป็นผู้นำโลกเสรีหรือพันธมิตรนานาชาติมากขึ้นทุกที” ทามีร์ตั้งข้อสังเกต

ชาวปาเลสไตน์ไม่ไว้ใจทั้งคู่

ด้านคาลิล ชิคากี นักรัฐศาสตร์และนักทำโพลชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่ค่อยตื่นเต้นกับผู้สมัครทั้งสองคน

“ชาวปาเลสไตน์ไม่ไว้ใจทั้งคู่ และแทบจะไม่เห็นความแตกต่างระหว่างพวกเขา”

ทาเฮอร์ อัล นูนู เจ้าหน้าที่ฮามาสเชื่อว่า “รัฐบาลสหรัฐมักเอียงเข้าข้างอิสราเอลมาโดยตลอด”

ส่วนชาวปาเลสไตน์ตามท้องถนนมองว่า ไม่ว่าใครชนะชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้ดีขึ้น

“ผมไม่เชื่อว่า การเลือกตั้งอเมริกาจะส่งผลบวกต่อความจริงทางการเมืองของเรา” ลีน บัสเซม นักศึกษา วัย 21 ปีจากมหาวิทยาลัยเบอร์ซิตในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ แสดงความเห็น

ฮัสซัน อันวาร์ ซาวด์เอ็นจิเนียร์ วัย 42 ปี เป็นอีกคนที่ไม่เชื่อว่าจะมีความแตกต่าง “เพราะนโยบายอเมริกาสนับสนุนและหนุนหลังอิสราเอลอย่างชัดเจนที่สุด”