'BYD' โค่น 'Tesla' มีรายได้รายไตรมาสแซงหน้า Tesla ครั้งแรก
BYD ยักษ์ใหญ่จากจีน สร้างเซอร์ไพรส์แซงหน้า Tesla คว้าแชมป์รายได้ไตรมาสล่าสุดไปครองได้สำเร็จ แม้ว่า Tesla จะยังคงครองใจนักลงทุนด้วยกำไรสุทธิที่สูงกว่า แต่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ BYD สะท้อนศักยภาพที่น่าจับตามอง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “บีวายดี” (BYD) ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจีน ก้าวขึ้นนำค่ายรถอีวีสหรัฐอย่าง “เทสลา” (Tesla) เป็นครั้งแรก ด้วยรายได้ในไตรมาสล่าสุดที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่ทั้งสองบริษัทเข้าสู่การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
รายได้ของ BYD พุ่งสูงขึ้น 24% เป็น 28,200 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสสาม แม้จะต่ำกว่าประมาณการ แต่ก็ยังสูงกว่ายอดขาย 25,200 ล้านดอลลาร์ของ Tesla ในช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนกำไรสุทธิของ BYD พุ่งสูงขึ้น 11.5% เป็น 11,600 ล้านหยวน สูงกว่าประมาณการ โดยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดรวม 1.12 ล้านคัน และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.9% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของ Tesla ที่ 2,200 ล้านดอลลาร์แล้ว BYD ยังตามหลังอยู่
ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี บริษัท BYD สร้างกำไรสุทธิได้ 25,200 ล้านหยวน จากยอดขายรวม 502,300 ล้านหยวน
ทั้งนี้ BYD และ Tesla กำลังคุกคามผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แบบดั้งเดิมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ Volkswagen, Ford, Stellantis และ General Motors ที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้ได้กำไร ในช่วงที่ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเริ่มชะลอตัวลง BYD ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า Tesla เนื่องจากมีรถยนต์ไฮบริดที่หลากหลาย และได้รับความนิยม
“รถยนต์ไฮบริด” ถือเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันยอดขายของ BYD โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นที่มีการพัฒนาระบบส่งกำลังให้วิ่งได้ไกลกว่า 2,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของ BYD ยังมาจากการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจร ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีและขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์