'ทรัมป์คัมแบ็ก' ประธานาธิบดีคนที่ 47 คนแรกในรอบ 132 ปี ที่เคยแพ้แต่กลับมาได้

'ทรัมป์คัมแบ็ก' ประธานาธิบดีคนที่ 47 คนแรกในรอบ 132 ปี ที่เคยแพ้แต่กลับมาได้

ทะลุ 270 เสียงเรียบร้อย! 'โดนัลด์ ทรัมป์' ชนะการเลือกตั้ง สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่หลายอย่างกับแมว 9 ชีวิตที่เคยแพ้ แต่กลับมาได้

ในช่วงเย็นวันนี้ (6 พ.ย.) สื่อหลายสำนักในสหรัฐรายงานตรงกันว่า อดีตประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้คะแนนเสียงเหนือเกณฑ์ 270 เสียงที่ชี้ขาดผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2567 แล้ว หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. คะแนนคณะผู้เลือกตั้งของทรัมป์แซงหน้า "คามาลา แฮร์ริส" ไปแตะระดับ 279 เสียง ต่อ 223 เสียง แม้ว่าจะยังไม่มีผลอย่างเป็นทางการออกมาก็ตาม 

คะแนนดังกล่าวส่งผลให้ทรัมป์สร้างประวัติศาสตร์เตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่อายุมากที่สุดของสหรัฐ 78 ปี 220 วัน โดยนับวันสาบานตน 20 ม.ค. 2568 (โจ ไบเดน 78 ปี 61 วัน) และเป็นประธานาธิบดีที่ชนะ 2 ครั้งโดยไม่ติดต่อกันครั้งแรกในรอบ 132 ปี นับตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 2435 โดยทรัมป์เคยชนะฮิลลารี คลินตัน ในปี 2559 แต่แพ้ให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน 2563 ก่อนจะกลับมาชนะในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังคาดว่า จะเป็นชัยชนะของประธานาธิบดี สภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภาจากพรรคเดียวกันครั้งแรกในรอบ 16 ปีด้วย หลังจากที่พรรครีพับลิกันชนะในวุฒิสภา ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรนั้น รีพับลิกันนำเดโมแครตอยู่ที่ราว 202 ต่อ 178 เสียง โดยผู้ที่ชนะถึง 218 เสียงก่อนจะได้เสียงส่วนใหญ่ในสภาล่างไป

หากชนะทั้ง 3 ส่วนจริง จะทำให้ทรัมป์สามารถผ่านกฎหมายหรือผลักดันนโยบายต่างๆ ตามที่เคยหาเสียงได้ง่ายขึ้น เช่น การประกาศจะขึ้นภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้า "จากทุกประเทศ" อย่างน้อย 10% และจะขึ้นภาษีศุลกากรกับ "จีน" อย่างน้อย 60%

ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ขึ้นเวทีในรัฐฟลอริดา "ประกาศชัยชนะ" ในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะเป็นยุคทองของอเมริกาอย่างแท้จริง  

"ผมขอขอบคุณประชาชนชาวอเมริกันสำหรับเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 และประธานาธิบดีคนที่ 45 ของท่าน" ทรัมป์กล่าวต่อผู้สนับสนุนที่ศูนย์ประชุมในเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา โดยมีครอบครัวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทีมหาเสียงของเขายืนเคียงข้าง

"เราจะช่วยเยียวยาประเทศของเรา ... เราจะแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศของเรา" ทรัมป์กล่าว และเสริมว่า "เราสร้างประวัติศาสตร์ในค่ำคืนนี้เพื่อเหตุผลบางอย่าง ... นี่จะเป็นยุคทองของอเมริกาอย่างแท้จริง"

ด้านซีเอ็นบีซีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าแฮร์ริส จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้สนับสนุนของเธอในคืนวันอังคารที่มหาวิทยาลัยฮาเวิร์ดในวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเธอเป็นศิษย์เก่า แต่แฮร์ริสเลือกตัดสินใจที่จะไม่กล่าวสุนทรพจน์ในวันดังกล่าว และจะเลื่อนไปกล่าวสุนทรพจน์ในวันพุธที่ 6 พ.ย. ตามเวลาในสหรัฐแทน