'จีน' ผ่านงบใหญ่ 10 ล้านล้านหยวน ลุยแก้หนี้แฝงรัฐบาลท้องถิ่น
'จีน' ผ่านงบใหญ่ 10 ล้านล้านหยวน ลุยแก้หนี้แฝงรัฐบาลท้องถิ่นที่เป็นปัญหาเรื้อรัง ขยายเพดานหนี้กลางปีงบ ครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี เปิดทางให้ท้องถิ่นสามารถกู้เพิ่ม ลุยออกบอนด์พิเศษกระตุ้นอสังหาฯ-เศรษฐกิจจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าในวันนี้ (8 พ.ย.67) ที่ประชุมคณะกรรมาธิการสภาประชาชนแห่งชาติของจีน มีมติอนุมัติโครงการมูลค่า 10 ล้านล้านหยวน (เกือบ 48 ล้านล้านบาท) เพื่อช่วยรีไฟแนนซ์หนี้รัฐบาลท้องถิ่นในจีน ขณะที่ปักกิ่งกำลังดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และยังเผชิญกับความเสี่ยงใหม่ซ้ำจากชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
รายงานระบุว่า จีนจะเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นเป็น 35.52 ล้านล้านหยวน (เกือบ 170 ล้านล้านบาท) ซึ่งจะทำให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกพันธบัตรพิเศษเพิ่มเติมได้อีกราว 6 ล้านล้านหยวนในระยะเวลา 3 ปี เพื่อสวอปหนี้นอกงบดุลซึ่งเป็นหนี้แฝงก้อนใหญ่เป็นปัญหามานาน และรัฐบาลท้องถิ่นยังได้โควตาออกบอนด์พิเศษเพิ่มอีก 4 ล้านล้านหยวนภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกันด้วย
ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี หรือตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ที่จีนอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ให้รัฐบาลท้องถิ่นในช่วงกลางปีงบประมาณ โดยวงเงินดังกล่าวเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลปักกิ่งจำเป็นต้องลดความเสี่ยงทางการเงินให้รัฐบาลท้องถิ่น และกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ
หลันฝออัน รัฐมนตรีคลังของจีนแถลงว่า มาตรการสวอปหนี้ดังกล่าวเป็น “การตัดสินใจเชิงนโยบายครั้งสำคัญที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมการพัฒนาในระดับนานาชาติ และระดับประเทศ เป็นความจำเป็นในการประกันการใช้มาตรการทางการคลัง และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และเป็นพัฒนาการที่แท้จริงของรัฐบาลท้องถิ่น”
รมว.คลังจีน ประเมินว่า การสวอปหนี้ดังกล่าวจะช่วยประหยัดดอกเบี้ยได้มากถึงราว 6 แสนล้านหยวน (ราว 2.86 ล้านล้านบาท) ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งบได้อย่างมีประสิทธภาพมากขึ้นในการกระตุ้น การลงทุน และการบริโภคได้ โดย ณ สิ้นปี 2023 จีนมีหนี้แฝงที่ค้างชำระอยู่ทั้งสิ้น 14.3 ล้านล้านหยวน (ราว 68 ล้านล้านบาท)
ภายหลังการแถลงดังกล่าว ค่าเงินหยวนออฟชอร์ปรับตัวลดลง 0.6% อยู่ที่ 7.1891 หยวน/ดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ก็ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์