เจ้าของ 'Shopee' โชว์กำไร 5 พันล้านบาท หุ้นพุ่งทะยานสูงสุดในรอบ 2 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นของ “Sea” เจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง “ช้อปปี้” พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าสองปี หลังจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซของบริษัทกลับมา “ทำกำไร” ได้อีกครั้ง ซึ่งส่งสัญญาณว่า บริษัทสามารถแข่งกับคู่แข่งรายใหญ่จากจีนอย่าง Alibaba Group ที่เป็นเจ้าของลาซาด้าได้

หุ้นของบริษัท Sea ในตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยมีกำไรสุทธิรวมเหนือความคาดหมายอยู่ที่ 153.3 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5,300 ล้านบาท และรายรับที่เพิ่มขึ้น 31% เป็น 4,300 ล้านดอลลาร์หรือราว 1.5 แสนล้านบาทสำหรับไตรมาสเดือนกันยายน ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งครั้งนี้ ช่วยคลายความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับอนาคตของ Shopee ซึ่งกำลังเผชิญการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดอีคอมเมิร์ซของอาเซียน โดยเฉพาะจากคู่แข่งรายใหญ่จากจีนอย่าง TikTok และ Lazada ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุนผู้ขายบนแพลตฟอร์มของตน เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Shopee 

นอกจากนี้ ผู้เล่นรายใหม่ที่น่าจับตามองอย่าง Shein และ Temu ก็เข้ามาร่วมแข่งขันในตลาดที่มีผู้บริโภคออนไลน์กว่า 675 ล้านคนแห่งนี้

“ขณะที่เรายังคงมุ่งเน้นการเติบโต เราคาดหวังว่า Shopee จะยังคงทำกำไรต่อไป” ฟอร์เรสต์ หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Shopee กล่าวในแถลงการณ์

ทั้งนี้ กำไรปรับปรุงของ Shopee ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ 34.4 ล้านดอลลาร์ หลังจากขาดทุนติดต่อกันหลายไตรมาส 

“Shopee ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดเอเชีย และเราคาดว่า จะเห็นผลกระทบเชิงบวกจากการปรับขึ้นอัตราค่าธรรมเนียมของ Shopee เมื่อเร็ว ๆ นี้” นักวิเคราะห์ของ UOB Kay Hian นำโดยจอห์น ชองกล่าวในบันทึก โดยปรับเป้าหมายราคาหุ้นขึ้น และคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ส่วนยอดขายสินค้าออนไลน์รวมของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของ Sea เพิ่มขึ้น 25% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็น 25,100 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สาม บริษัทคาดว่าผู้ใช้งานที่แอคทีฟจะถึง 1 พันล้านเร็ว ๆ นี้โดยไม่ได้ระบุกรอบระยะเวลา 

Bloomberg Intelligence ระบุว่า กำไรของ Sea กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจเกมที่ฟื้นตัว และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ Shopee ที่ทำกำไรได้ตามเป้าหมายในไตรมาสที่ 3 อีกทั้งเกม Free Fire ซึ่งเป็นเกมหลักของ Sea ยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้คาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจเกมจะเติบโตสูงขึ้นอีกในไตรมาสที่ 4

ไม่เพียงเท่านั้น การปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่รูปแบบตลาดซื้อขายสินค้าในท้องถิ่นและการบริหารจัดการขนส่งภายในเองนั้น ส่งผลดีต่อยอดขายโฆษณา และช่วยเสริมสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในบราซิลอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มผลกำไรจากการให้บริการทางการเงินมากยิ่งขึ้น โดยการปล่อยสินเชื่อในวงเงินที่สูงขึ้นแก่ลูกค้าที่มีศักยภาพ

อ้างอิง: bloomberg