รัสเซียขู่ตอบโต้หากยูเครนใช้ขีปนาวุธโจมตี
รัสเซียระบุว่าการที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐเท่ากับสหรัฐมีส่วนร่วมกับสงครามโดยตรง ซึ่งจะนำไปสู่การตอบโต้อย่างเหมาะสมและรุนแรง
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียออกแถลงการณ์เตือนว่า การโจมตีดังกล่าวภายในดินแดนของรัสเซีย “จะแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมโดยตรงของสหรัฐและดาวเทียมในการสู้รบกับรัสเซีย"
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ของสหรัฐ ก่อนที่เขาจะออกจากทำเนียบขาวเพียงสองเดือน
ยังไม่ชัดเจนว่าว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้รับตำแหน่งต่อจากไบเดน ได้รับการปรึกษาหารือก่อนหรือไม่ หรือทรัมป์จะยึดมั่นกับการตัดสินใจของไบเดนนี้หรือไม่ ทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าจะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ยูเครนมีระบบขีปนาวุธยุทธวิธีของกองทัพของสหรัฐ หรือ ที่รู้จักกันว่า เอแทค ATACMS ซึ่งมีพิสัย 300 กิโลเมตร รวมถึง ขีปนาวุธสตอร์มชาโดว์ (Storm Shadow) ของฝรั่งเศสและ อังกฤษ ซึ่งมีพิสัยใกล้เคียงกัน แต่พันธมิตรตะวันตกได้ห้ามเคียฟไม่ให้ใช้ขีปนาวุธเหล่านี้โจมตีเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย
การตัดสินใจของไบเดนที่จะยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวถือเป็น ช่วงเวลาสำคัญในสงคราม ซึ่งครบ 1,000 วันในวันอังคาร (19 พ.ย.) รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 ปัจจุบันมอสโกได้ระดมการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของ ยูเครน หลังจากทั้งสองฝ่ายดูเหมือนจะเข้าสู่ภาวะชะงักงันในสนามรบ
การตัดสินใจของสหรัฐยังเกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือส่งทหารกว่า 10,000 นาย เพื่อช่วยเหลือกองกำลังของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน รบผลักดันให้กองทัพยูเครนที่เข้ายึดครองพื้นที่เล็กๆ ในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซียออกไป
รายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันระบุด้วยว่าเกาหลีเหนืออาจส่งทหารมากถึง 100,000 นายมาช่วยรัสเซียรบนอกเหนือไปจากปืนใหญ่และอาวุธอื่นๆ ที่ให้กับพันธมิตร
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนระบุว่าอาจไม่มี การประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับข้อตกลงกับสหรัฐ โดย เขากล่าวว่า “ขีปนาวุธจะพูดแทนตัวเอง”
ยูเครนอาจใช้ ATACMS ในเคิร์สก์ก่อน โดยรายงานบางฉบับระบุว่าสหรัฐอาจจำกัดการใช้งานที่แห่งนั้นเพื่อส่งสัญญาณให้เกาหลีเหนือหยุดส่งความช่วยเหลือไปยังรัสเซีย และเป็นการเตือนมอสโกเองด้วย การอนุมัติใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐอาจตามมาด้วยการอนุมัติที่คล้ายกันโดยสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส และถูกมองในตะวันตกว่าเป็นวิธีการส่งสัญญาณไปยังผู้นำรัสเซียว่า เขาไม่สามารถเอาชนะสงครามยูเครนในทางทหารได้
ปูตินไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้
ในเดือนกันยายน ผู้นำรัสเซียกล่าวว่าการใช้ขีปนาวุธดังกล่าวโดยยูเครนจะแสดงให้เห็นถึง “การมีส่วนร่วมโดยตรง” ของประเทศสมาชิกนาโตในสงคราม
ในวันจันทร์ โฆษกของปูตินกล่าวว่าสหรัฐกำลัง “เติมน้ำมัน ลงในกองไฟ”
ในขณะที่ นายจอน ไฟเนอร์ รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่ง ชาติของสหรัฐกล่าวว่า วอชิงตันได้แจ้งให้รัสเซียทราบอย่างชัดเจนว่า สหรัฐจะตอบโต้ทั้งต่อการปรากฏตัวของกองกำลังเกาหลีเหนือ และ “การยกระดับความรุนแรง” ของการโจมตีทางอากาศของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานทั่วยูเครน
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้โจมตีโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บหลายคน
ในวันจันทร์ (18 พ.ย.) รัสเซียได้โจมตีเมืองโอเดสซา ทำให้มีผู้เสียชีวิต อีก 10 ราย และบาดเจ็บเกือบ 50 ราย
จนถึงขณะนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อการ ตัดสินใจของไบเดน เขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน และจะกลับเข้าทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ได้ให้คำมั่นว่าจะยุติการมีส่วนร่วมของสหรัฐในสงครามต่างประเทศ และใช้เงินของผู้เสียภาษีเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของชาวอเมริกัน เขายังกล่าวอีกว่าจะยุติสงครามยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะทำอย่างไร เซเลนสกีกล่าวเมื่อไม่นานนี้ว่าเขาคาดว่า ทรัมป์จะกดดันยูเครนและรัสเซียให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพภายในปีหน้า