‘ญี่ปุ่น’ ขาดดุลการค้า 4 เดือนติด ‘เยนอ่อนค่า’ ทำต้นทุนนำเข้าพุ่ง

‘ญี่ปุ่น’ ขาดดุลการค้า 4 เดือนติด ‘เยนอ่อนค่า’ ทำต้นทุนนำเข้าพุ่ง

‘ญี่ปุ่น’ บันทึกขาดดุลการค้า 4 เดือนติด ในเดือน ต.ค. จาก ‘เยนอ่อนค่า’ ต้นทุนพลังงานแพง หนุนต้นทุนนำเข้าพุ่ง สวนทางยอดส่งออกพุ่งขึ้น 3.1%

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ญี่ปุ่นรายงานการขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะพลังงานสูงขึ้นอย่างมาก 

กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยตัวเลขล่าสุดว่า การขาดดุลการค้าในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 461,000 ล้านเยน หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.3% และคาดว่าจะขาดดุล 3.604 แสนล้านเยสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลายประการ

แม้ว่ายอดส่งออกในเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับได้รับแรงหนุนจากความต้องการอุปกรณ์ชิปที่ฟื้นตัวในจีน  

เยนเคลื่อนไหว  155 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินที่อ่อนค่าลง ซึ่งมักจะมาพร้อมกับการเติบโตที่ชะลอตัวลง ถือเป็นอีกหนึ่งความกังวลของญี่ปุ่น โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวที่ 155 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้นจากระดับ 140 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อปีที่แล้ว

 

ภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงและราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการนำเข้าของญี่ปุ่นอย่างหนัก ขณะเดียวกัน ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศที่ชะลอตัวลงก็ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลง

อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบ่งชี้ว่าปัจจัยบางอย่างที่กดทับการส่งออกของญี่ปุ่นในช่วงนี้ อาจเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว เช่น ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นที่ส่งผลต่อการผลิตและการขนส่ง นอกจากนี้ การหยุดชะงักของการผลิตรถยนต์ในประเทศก็มีส่วนทำให้ยอดส่งออกลดลงเช่นกัน

เมื่อพิจารณาในระดับภูมิภาค พบว่าการส่งออกของญี่ปุ่นไปยังประเทศในเอเชีย เช่น สิงคโปร์และฮ่องกง ยังคงเติบโตได้ดี ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาหดตัวลงเล็กน้อย ซึ่งอาจสะท้อนถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในแต่ละภูมิภาค

อ้างอิง AP