ยลโฉมวัดไชยวัฒนาราม สหรัฐร่วมบูรณะใหญ่ 12 ปี

ยลโฉมวัดไชยวัฒนาราม  สหรัฐร่วมบูรณะใหญ่ 12 ปี

น้ำท่วมใหญ่ภาคกลางของประเทศไทยเมื่อปี 2554 สร้างความเสียหายใหญ่หลวง ไม่เพียงแค่ทางเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงโบราณสถานใน จ.อยุธยา อย่างวัดไชยวัฒนาราม วัดสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายหลายๆ เรื่อง เช่น บุพเพสันนิวาสและพรหมลิขิต โชคดีที่มีโครงการฟื้นฟูบูรณะช่วยรักษาวัดไว้ได้

โครงการฟื้นฟูบูรณะวัดไชยวัฒนารามภายใต้กองทุนเอกอัครราชทูตเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม (U.S. Ambassadors Fund for Cultural Preservation: AFCP) เริ่มต้นขึ้นในปี 2555 เพื่อฟื้นฟูบูรณะวัดสมัยศตวรรษที่ 17 ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก โครงการดำเนินมานาน 12 ปี ด้วยเม็ดเงินสนับสนุน 1.8 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลวอชิงตัน ถือเป็นหนึ่งในโครงการ AFCP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในวันลอยกระทง (15 พ.ย.) ที่ผ่านมาจึงถือเป็นโอกาสดีที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยฉลองความสำเร็จปิดโครงการฟื้นฟูบูรณะวัดไชยวัฒนาราม 

โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวว่า การอนุรักษ์วัฒนธรรมเป็นหนึ่งในสายใยที่เชื่อมโยงทั้งสองชาติเข้าด้วยกันมายาวนานกว่า 190 ปี วัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อแสดงความเคารพที่ชาวอเมริกันมีต่อวัฒนธรรมอื่นๆ ทั่วโลก ในประเทศไทยรัฐบาลสหรัฐได้มอบเงินสนับสนุนให้กับโครงการต่างๆ 20 โครงการเพื่อช่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันโดดเด่นของไทย 

ในโอกาสเดียวกันนั้นทูตโกเดคยังร่วมทำพิธีเปิดศาลาแสดงหุ่นจำลองแบบสันนิษฐานวัดไชยวัฒนารามและโมเดลสำริด 

“นอกจากการสนับสนุนการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมแล้ว รัฐบาลสหรัฐยังมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการเข้าถึง และช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลและสถานที่ต่างๆ ได้โดยง่าย ดังนั้นเราจึงหวังว่าโมเดลสำริดนี้จะช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องในการมองเห็นสามารถเข้าใจแผนผังของสถานที่แห่งนี้ได้ด้วยประสบการณ์ของตนเอง” ทูตโกเดคกล่าว

ไม่เพียงเท่านั้นศาลาจัดแสดงหุ่นจำลองฯ ยังมีการสร้างทางลาดขึ้นใหม่เพื่อให้ผู้มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวเข้าถึงศาลาหลังนี้ได้ 

“เราทั้งหลายเพิ่งจะเฉลิมฉลองโอกาสในวัน World Inclusion Day ไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค. การดำเนินการเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีที่เราสามารถช่วยให้คนพิการมีส่วนในสังคมและไม่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังได้ เราจะเดินหน้าไปด้วยกัน” 

ราฟิก มันซูร์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายนโยบายประจำสำนักกิจการการศึกษาและวัฒนธรรม กล่าวว่า สหรัฐอนุรักษ์และปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ปัจจุบันงานส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยศูนย์มรดกทางวัฒนธรรมของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนภาคประชาชน ส่งคืนทรัพย์สินทางวัฒนธรรม เพิ่มความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม โดยมีโครงการหลักคือโครงการกองทุนเอกอัครราชทูตเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม

 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐก่อตั้งโครงการนี้ขึ้นเมื่อปี 2544 ตามคำของของรัฐสภา ตลอดเวลา 24 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งโครงการนี้กลายเป็นเสาหลักของการทูตสาธารณะของสหรัฐ โดยได้มอบเงิน 128 ล้านดอลาร์ให้กับกว่า 1,270 โครงการ เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมใน 134 ประเทศ เช่น โครงการเก็บข้อมูลอาคารบนถนนสายหลัก (Trunk) อันเก่าแก่ระหว่างเมืองอัคราของอินเดียกับเมืองละฮอร์ของปากีสถาน อนุรักษ์และฟื้นฟูบูรณะผลงานจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ที่เสียหายจากอัคคีภัยในอินโดนีเซีย เชื่อมผู้คนจากยุคสมัยต่างๆ ผ่านการบอกเล่าและบันทึกเรื่องราวนิทานพื้นบ้านในซิมบับเว ยลโฉมวัดไชยวัฒนาราม  สหรัฐร่วมบูรณะใหญ่ 12 ปี

โครงการที่วัดไชยวัฒนารามดำเนินการหลายระยะ เพื่อประเมินและซ่อมแซมความเสียหาย ตลอดจนรับมือกับปัญหาน้ำท่วมตามฤดูกาลซึ่งเป็นปัญหาใหญ่และเกี่ยวข้องกับฤดูมรสุมประจำปีในประเทศไทย 

  • รู้จักโครงการฟื้นฟูบูรณะวัดไชยวัฒนารามภายใต้กองทุนเอกอัครราชทูตเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม

โครงการฟื้นฟูบูรณะวัดไชยวัฒนาราม ภายใต้กองทุนเอกอัครราชทูตเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม (U.S. Ambassadors Fund for Cultural Preservation: AFCP)เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา,กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมไทย และกองทุนโบราณสถานโลก (World Monument Fund: WMF) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและบูรณะวัดไชยวัฒนาราม วัดเก่าแก่สมัยศตวรรษที่17ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังโครงสร้างต่าง ๆ ภายในวัดได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในปี 2554

กิจกรรมหลัก ได้แก่ การศึกษาพื้นที่โดยรอบวัดเพื่อจัดทำแผนการจัดการน้ำ การออกแบบกำแพงป้องกันน้ำท่วมด้านทิศใต้ การสำรวจและบูรณะเมรุทิศเมรุราย4องค์ รวมถึงระเบียงคดเชื่อมเมรุทิศ จิตรกรรมฝาผนัง และพระพุทธรูปทรงเครื่องประจำเมรุทิศเมรุราย ตลอดจนการปรับปรุงและเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงศาลาให้ความรู้และแสดงหุ่นจำลองวัดไชยวัฒนาราม

นภสินธุ์ ชัยปาริฉัตร สถาปนิก และอานันท์ วัฒนธรรม นักโบราณคดีจากโครงการ AFCP  เล่าว่าโครงการบูรณะวัดไชยวัฒนารามเพื่อรักษาสภาพความเป็นของแท้ดั้งเดิม คงสภาพที่เห็นตอนนี้แต่เสริมโครงสร้างที่แข็งแรงให้อยู่ต่อไปได้ ภายใต้แนวคิดหลักคือ “ทำให้โบราณสถานกันน้ำได้ทั้งจากบนดินและบนฟ้า” หลังถูกน้ำท่วมใหญ่สิ่งที่โครงการทำคือระบายน้ำให้เร็วที่สุด จากนั้นจึงประเมินโครงสร้าง และเป็นผู้นำในการทดลองใช้ปูนขาวผสมทรายหรือใช้ผงอิฐในการบูรณะโดยไม่ใช้ซีเมนต์ เพราะซีเมนต์จะไปขัดขวางความชื้นไม่ให้ระเหยออกไป  ยลโฉมวัดไชยวัฒนาราม  สหรัฐร่วมบูรณะใหญ่ 12 ปี

สอดคล้องกับทูตโกเดคที่กล่าวว่า การทำทุกโครงการอนุรักษ์ทุกโครงการย่อมมีความท้าทาย ที่สำคัญคือต้องเข้าใจประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ณ วัดไชยวัฒนาราม ใช้วิทยาศาสตร์และการค้นคว้าวิจัยในการฟื้นฟูบูรณะ อนุรักษ์ไว้ให้ดีที่สุดยาวนานที่สุดอยู่ต่อไปถึง 300 ปีข้างหน้าและเพิ่มความสามารถให้คนทั้งหลายเข้าถึงได้ 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่บางคนกังวลคือ การที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐจะมีการตัดงบประมาณด้านอนุรักษ์โบราณสถานในต่างประเทศหรือไม่ ทูตโกเดคกล่าวว่า ทรัมป์จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค.2568 หลังจากนั้นจึงตัดสินใจแผนงานและโครงการในอนาคตซึ่งสภาคองเกรสจะมีส่วนร่วมตัดสินใจด้วย ณ จุดนี้ยังไม่สามารถคาดเดาถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้