หากไม่อยากถูกประหาร ให้ชดใช้เงินเฉียด 4 แสนล้านบาท อัยการแจ้งเศรษฐินีเวียดนาม
‘เจือง มาย หลั่น’ เศรษฐินีเวียดนาม ยังคงดิ้นรนหนีโทษประหารชีวิต หลังถูกตัดสินโกงเงินมหาศาลกว่า 4 แสนล้านบาท ล่าสุด อัยการย้ำว่าเธอต้องชดใช้เงินเฉียด 4 แสนล้านบาท หากต้องการเลี่ยงโทษประหารชีวิตด้วยยาพิษ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อัยการเวียดนามได้แจ้งให้ “เจือง มาย หลั่น” เศรษฐินีเวียดนามด้านอสังหาริมทรัพย์ทราบว่า เธอต้องชดใช้เงินประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 3.8 แสนล้านบาท หากต้องการเลี่ยงโทษประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ
หลั่นในวัย 68 ปี กำลังอุทธรณ์คำพิพากษาประหารชีวิต หลังจากถูกตัดสินในเดือนเมษายนว่า มีความผิดในข้อหาทุจริตเงิน 12,300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.2 แสนล้านบาทจากธนาคาร Saigon Commercial Bank เธอยังถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ และละเมิดระเบียบการให้สินเชื่อของธนาคาร
ทนายความของหลั่นเปิดเผยว่า อัยการได้โต้แย้งต่อศาลแห่งโฮจิมินห์ซิตี้ว่า ไม่ควรให้ความปรานีแก่เธอ เว้นแต่เธอจะหาทางคืนเงินจำนวนมากถึง 16,400 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5.7 แสนล้านบาท
“ตอนนี้เรากำลังพยายามช่วยเธอหลีกเลี่ยงโทษประหารชีวิต” เจียง ฮ่อง แถ่ง ทนายความของหลั่นกล่าว “มีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติกลุ่มหนึ่งตกลงให้หลั่นยืมเงิน 400 ล้านดอลลาร์ และพวกเขากำลังเตรียมเอกสารที่จำเป็น เพื่อส่งเงินเข้ามา”
ทนายแถ่งเชื่อว่า หลั่นสามารถชำระหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกประหารชีวิตได้ ภายใต้กฎหมายศาลเวียดนาม โดยหากหลั่นสามารถคืนทรัพย์สินที่ถูกยักยอกไปได้สามในสี่ คณะลูกขุนสามารถพิจารณาการลดโทษของเธอได้
ทั้งนี้ คดีของเศรษฐินีอสังหาริมทรัพย์รายนี้ได้รับความสนใจทั่วโลก เนื่องจากความรุนแรงในโทษของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ซึ่งชี้เห็นว่าคดีของเธอเป็นตัวอย่างของการทุจริตในกลุ่มบุคคลระดับสูงที่หนีไม่พ้นการถูกดำเนินคดี
เมื่อต้นเดือนนี้ หลั่นแสดงอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด และเสียงของเธอสั่นคลอในศาลเมื่ออัยการเสนอให้คงโทษประหารชีวิตไว้ เธอกล่าวว่า ตนเองได้รับผลกระทบทางจิตใจจากคำตัดสินดังกล่าว โดยคณะผู้พิพากษาขอให้เธอสงบสติอารมณ์และอนุญาตให้เธอแก้ต่างในขณะที่นั่งได้ ถึงแม้เธอปฏิเสธ
ในการพิจารณาคดีครั้งที่สองในเดือนตุลาคม เธอถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลักลอบขนเงินประมาณ 4,500 ล้านดอลลาร์ข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ ฟอกเงินประมาณ 17,500 ล้านดอลลาร์จากสินทรัพย์ที่ถูกขโมยจากธนาคาร Saigon Commercial Bank และยักยอกเงินประมาณ 1,200 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนผ่านการออกพันธบัตร
สำหรับการพิจารณาคดีอุทธรณ์ เดิมคาดว่าจะสิ้นสุดในวันที่ 25 พฤศจิกายน แต่ความพยายามที่จะให้หลั่นคืนเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ระยะเวลาถูกขยายออกไป อีกทั้งศาลได้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะประกาศในวันอังคารหน้า
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศาลจะให้โอกาสเธอมีชีวิตอยู่ เพื่อเธอจะสามารถจัดการชำระหนี้ทั้งหมดได้” ทนายแถ่งกล่าว อีกทั้งสื่อท้องถิ่นเวียดนามรายงานว่า จำเลยอีก 47 คนกำลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาในระหว่างการพิจารณาคดีเดียวกันด้วย
อ้างอิง: bloomberg