‘ฮานอย’ เมืองในแม่น้ำแห่งอินโดจีน | World Wide View

‘ฮานอย’ เมืองในแม่น้ำแห่งอินโดจีน | World Wide View

ฮานอย เมืองหลวงแห่งประวัติศาสตร์ที่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ส่วนใหญ่ผู้คนยังคงมีวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น ยังคงมีแม่ค้าหาบเร่ การนั่งทานอาหารริมถนนด้วยเก้าอี้และโต๊ะเล็กๆ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ชวนให้นักท่องเที่ยวไปเยือนและไปเที่ยวซ้ำเรื่อยๆ

ฮานอยเป็นเมืองหลวงของเวียดนาม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศใกล้กับจีน มีขนาดประมาณ 3.3 พันตร.กม. และมีประชากรประมาณ 8.5 ล้านคน (ถือว่าใหญ่ และหนาแน่นกว่ากรุงเทพฯ ของเราที่มีขนาดประมาณ 1.5 พันตร.กม. และมีประชากรประมาณ 5.5 ล้านคน)

ฮาแปลว่าน้ำ ส่วนนอยแปลว่าใน แปลเพราะ ๆ คือ เมืองในแม่น้ำ เพราะฮานอยมีแม่น้ำยาว ๆ ล้อมรอบ คือ Da river และ Red river หรือแม่น้ำแดง โดยมีแม่น้ำแดงไหลผ่านกลางเมือง แม่น้ำสายนี้ไหลมาจากมณฑลยูนนานของจีน มีความยาวกว่า 1,149 กม. โดยส่วนที่ไหลผ่านเวียดนาม มีความยาว 510 กม. ก่อนจะไหลลงอ่าวตังเกี๋ย แม่น้ำแดงนี้เหมือนเป็นสายเลือดหลักของฮานอย เป็นบ่อเกิดความอุดมสมบูรณ์ ชีวิต และวัฒนธรรมของคนที่นี่ เช่นเดียวกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเส้นเลือดหลักของภาคกลางของไทย

ฮานอยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน พบการตั้งรกรากเป็นชุมชนตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 3 อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่อยู่ใกล้จีน จึงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและการปกครองของจีนนับพันปี และก็ยังเห็นอิทธิพลทางวัฒนธรรมและภาษาของจีนได้ทั่วไปจนถึงปัจจุบัน

ถ้าจะคุยกันถึงประวัติศาสตร์ของเวียดนาม คงต้องคุยกันยาว เพราะประเทศนี้ผ่านอะไรมามากมาย รวมถึงสงครามหลายครั้ง และแม่น้ำแดงก็ได้ชำระคราบเลือดและน้ำตาของคนเวียดนามมาตลอดประวัติศาสตร์ แต่เวียดนามในวันนี้เปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะความเจริญของตึกรามบ้านช่อง รถรา ร้านรวง .. ความฝันของคนเวียดนามในวันนี้ ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อเอกราช แต่เป็นการชิงชัยเพื่อความเจริญรุ่งเรือง

‘ฮานอย’ เมืองในแม่น้ำแห่งอินโดจีน | World Wide View

แต่ท่ามกลางการพัฒนาในด้านต่างๆ วิถีชีวิต ของคนท้องถิ่นที่ฝังรากไว้ก็ยังมีให้เห็นในหลายแง่มุม เช่น ยังมีแม่ค้าใส่งอบทรงกรวยแหลม (เรียกว่านอนหลา) หาบของขายอยู่กลางเมือง ซึ่งของในหาบก็คือผลิตภัณฑ์การเกษตรที่เกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของการเพาะปลูก เช่น ข้าว (เอามาทำข้าวเม่า) มะม่วง แห้ว มะกอกน้ำ เป็นต้น ซึ่งการขายของด้วยหาบในเมืองไทยแทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว

‘ฮานอย’ เมืองในแม่น้ำแห่งอินโดจีน | World Wide View

อีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี่ก็คือ แม้จะมีตึกสูงมากมาย แต่คนก็ยังนิยมนั่งบนโต๊ะเตี้ย ๆ ทานอาหารกันริมถนน เป็นบรรยากาศน่ารักที่หาดูไม่ง่ายในบ้านเราเช่นกัน อีกสิ่งหนึ่งที่ยังมีให้เห็นแม้จะบางตาลงคือ การใส่ชุดประจำชาติ หรือชุดอ๋าวหญ่าย (แปลว่าเสื้อยาว) ซึ่งพอมีคนใส่ให้เห็นบ้างในวันปกติ แต่คนเวียดนามมักนิยมใส่ชุดนี้ในเทศกาลสำคัญ

อย่างหนึ่งที่มาเวียดนามแล้วจะไม่สังเกตไม่ได้เลย คือปริมาณของมอเตอร์ไซค์ ที่แม้ว่าทุกวันนี้ดูเหมือนจะมีลดลงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังถือว่ามากเมื่อเทียบกับบ้านเรา โดยที่มีมากกว่าบ้านเราเช่นกันก็คือ ผู้ขับขี่ที่นี่จะใส่หมวกกันน็อคแทบ 100% แต่คนขับรถหรือขี่มอเตอร์ไซค์ที่นี่ต้องถือเป็นทักษะพิเศษ และมีหัวจิตหัวใจเข้มแข็งพอสมควร เพราะคนขับกันค่อนข้างฉวัดเฉวียน ชวนลุ้นกันแทบทุกแยกหรือทุกวงเวียน

ด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน ทำให้ฮานอยเป็นเมืองน่าเที่ยว น่าศึกษา น่าค้นหา .. และด้วยการเมืองที่มั่นคง และความทะเยอทะยานในการพัฒนาประเทศ ก็เป็นเมืองที่น่ากลัวสำหรับไทยในเวลาเดียวกัน