‘รถไฮบริด’ มาแรงในไทย ท่ามกลางตลาดรถที่ดูซบเซาลง
อนาคตตลาดรถยนต์ไทยดูเหมือนไม่สดใส ผู้ผลิตรถรายใหญ่ต่างปรับลดเป้าหมายการผลิตกันยกใหญ่ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด โดย ‘รถไฮบริด’ กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ยอดขายรถยนต์โดยรวมจะซบเซา
เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า เหล่าผู้ผลิตรถยนต์จีนเปิดตัว “รถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่” ในงานมหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2567 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมรถไทยที่เผชิญกับปีที่ยากลำบากได้ สถานการณ์ตลาดที่ซบเซาในสัปดาห์นี้ ทำให้สมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยปรับลดเป้าหมายการผลิตรายปีลงอีก 200,000 คัน เป็น 1.5 ล้านคัน จากเป้าหมายเดิม 1.9 ล้านคัน
Great Wall Motor ผู้ผลิตรถยนต์จีนคาดว่า จะสามารถจำหน่ายรถยนต์ได้เพียงประมาณ 1,000 คันในงานมหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นเพียง “ครึ่งเดียว” ของยอดจองที่ได้รับในงานเดียวกันเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของธนาคารไทยพาณิชย์คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ไทยยังไม่ฟื้นตัวจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยคาดว่ายอดขายภายในประเทศในปีหน้าจะอยู่ที่ 550,000 คันเท่านั้น ยอดขายรถยนต์ในเดือนตุลาคมลดลง 36% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 37,691 คัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 54 เดือน การส่งออกลดลง 20.2% เนื่องจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ระบบโลจิสติกส์หยุดชะงัก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ระบุว่า “รถยนต์ไฮบริด” จะเป็น “แรงขับเคลื่อนสำคัญ” เนื่องจากผู้บริโภคเปิดรับกลุ่มยานพาหนะประเภทนี้มากขึ้น ทั้งในช่วงราคาระดับกลางและระดับหรู
สำหรับยอดขายรถยนต์ไฮบริดในไทยเพิ่มขึ้น 42% ในปีนี้ เป็น 99,895 คัน เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบที่เติบโตเพียง 1% เท่านั้น ซึ่ง “Toyota” ครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฮบริดในไทย 47% โดยรถยนต์เอสยูวี Toyota Yaris Cross เป็นรถยนต์ไฮบริดที่ขายดีที่สุด
“โตโยต้าเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริด (HEV) ในประเทศไทย โดยเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดหลายรุ่นสู่ตลาด และมียอดขายมากกว่า 230,000 คัน นับตั้งแต่ปี 2552 เมื่อได้เปิดตัวรถยนต์ Camry ไฮบริด” โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยกล่าว
ด้านคู่แข่งชาวจีนอย่าง BYD ได้จัดแสดงรถกระบะปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีวางจำหน่ายในตลาด แชมป์รถยนต์ไฟฟ้าได้ลดราคาเริ่มต้นของ BYD SEALION 7 รถปลั๊ก-อินไฟฟ้าที่เปิดตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาลง 100,000 บาท สำหรับการขายในงานแสดงรถยนต์ เหลือเพียง 1,149,900 บาท โดย BYD ครองอันดับหนึ่งในตลาดรถอีวีแบบเต็มรูปแบบของไทย โดยมียอดขายเกือบ 60,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในไทยเมื่อสองปีก่อน
ก่อนหน้านั้น การลดราคาอย่างต่อเนื่องได้สร้างปัญหาให้กับ BYD โดยในเดือนกรกฎาคม เมื่อการลดราคาครั้งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดโรงงานในไทย ทำให้ลูกค้ารถ BYD ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า รถยนต์ของพวกเขากำลังสูญเสียมูลค่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา BYD ได้เสนอส่วนลดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเก่าอย่าง Sealion, Seal และ M6 รถตู้รุ่นราคาต่ำสุดของ BYD เริ่มต้นที่ 569,900 บาท
“ผมคิดว่ารอบการลดราคาครั้งนี้ น่าจะจบลงแล้ว” นฤดม มุจจลินทร์กูล นักวิเคราะห์การลงทุนแห่ง บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีกล่าว หลังจากการลดราคาตามปกติในงานมอเตอร์โชว์ “ผู้คนยังคงระมัดระวังเรื่องราคา บางแบรนด์รถปรับลดราคาลงสองถึงสามครั้งสำหรับรุ่นเดียวกัน ทำให้ปีหน้าอาจจะง่ายขึ้นสำหรับพวกเขาในการตัดสินใจซื้อรถ”
อ้างอิง: nikkei