สำรวจความเป็นไปได้สัมพันธ์การค้า ‘ไทย-รัสเซีย’ ใต้ฉาก BRICS และทรัมป์ 2.0
ไทย-รัสเซีย ปักหมุดความร่วมมือภายใต้ฉาก BRICS มุ่งขยายพันธมิตรธุรกิจ พร้อมผนึกกำลังเกษตรและเทคโนโลยีสร้างความมั่นคงทางอาหาร
ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังถูกทดสอบเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยน ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ประเทศไทยและรัสเซียต่างพยายามสร้างสะพานแห่งความร่วมมือโดยมองข้ามผ่านความซับซ้อนของสถานการณ์โลกไปสู่โอกาสที่จะร่วมกันสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน มากไปกว่านั้นความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศมีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญมากขึ้นไปอีกหลังจากประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาภายใต้บริบทการกลับมาของทรัมป์ 2.0
'รัสเซีย' จ่อเข้าไทยเฉียด 2 ล้านคนภายในสิ้นปี 2567
นายเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตแห่งสหพันธรัฐรัสเซียประจำราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า อาเซียนกับรัสเซียเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยกับรัสเซียก็เป็นสองประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ทั้งโลกอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ
หนึ่งในความร่วมมือสำคัญระหว่างทั้งสองประเทศคือด้านการท่องเที่ยวเพราะชาวรัสเซียเข้ามาในประเทศไทยปีละหลายล้านคนซึ่งสร้างเม็ดเงินให้เศรษฐกิจไทยมหาศาล โดยนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับสองในปี 2566 รองจากประเทศจีน
ทั้งนี้ ณ เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศไทย 1.5 ล้านคนและคาดว่าตัวเลขจะแตะระดับ 1.8-1.9 ล้านคนภายในสิ้นปี 2567 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าปริมาณนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เข้ามาประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วซึ่งอยู่เพียง 1.1 ล้านคนด้วยเม็ดเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมด 5,000 ล้านบาท
นักท่องเที่ยวรัสเซียแห่เดินทางไปภูเก็ต
ที่สำคัญ ข้อมูลจากสตาติสต้า ระบุว่า หากพิจารณาเฉพาะเจาะจงไปที่จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยงจากรัสเซียคือกลุ่มที่เดินทางเข้าไปมากที่สุดอยู่ที่ 1.245 แสนคน รองลงมาคืออินเดีย จีน เยอรมัน และออสเตรเลียตามลำดับ
ค้นหาพื้นที่ใหม่แห่งความร่วมมือ
เมื่อถามถึงสิ่งที่ประเทศไทยควรปรับปรุงเพื่อดึงดูดไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวแต่ยังรวมถึงนักลงทุนจากรัสเซียด้วย นายเยฟกินีกล่าวว่า “ผมหวังว่าภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศต้องสื่อสารซึ่งกันและกันมากขึ้น นั่งข้างๆ กันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือที่เป็นไปได้ อย่าไปสนใจข่าวหรือโฆษณาชวนเชื่อ โฆณาชวนเชื่อที่ไม่เหมาะสม มากไป”
พร้อมกล่าวต่อว่า ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ทั้งสองประเทศจะเริ่มต้นเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมไม่ว่าจะเป็นในเชิงเกษตรกรรม เทคโนโลยี หรือพลังงานซึ่งไม่ใช่แค่น้ำมันหรือแก๊สแต่รวมถึงพลังงานหมุนเวียนอีกด้วย
ด้าน อดิศร์ กฤษณวงศ์ กรรมการบริหารสูงสุดหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยและรัสเซียเป็นสองประเทศที่เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันแม้ปัจจุบันจะยังมีพื้นที่สำหรับการพัฒนาความร่วมมืออีกมหาศาล โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ และก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่ภาคการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในอนาคตยังมีแผนที่จะพัฒนาความร่วมมือในอุตสาหกรรมการเกษตรที่ไทยมีความเชี่ยวชาญเข้ากับภาคเทคโยโลยีที่รัสเซียเด่นในด้านนี้ ทั้งหมดเพื่อเสริมสร้างเทคโนโลยีการเกษตรเพื่อเพิ่ม "ความมั่นคงทางอาหาร" ให้ทั้งสองประเทศ
ข้อมูลการค้าไทย-รัสเซีย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ปริมาณการค้าต่างประเทศของรัสเซีย (Volum of Russia’s Foreign Trade) ในปี 2566 อยู่ที่ 7.102 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายของรัสเซียกับประเทศไทย (Russia and Thailand Trade Turnover) ในปีเดียวกันอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยสินค้าที่ไทยส่งออกไปรัสเซียประกอบด้วย
1. เครื่องจักร อุปกรณ์ และยานพาหนะ (คิดเป็น 30-40% ของยอดส่งออกทั้งหมด)
2. ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเคมีและยาง
3. อาหารและวัตถุดิบทางการเกษตร
4. สิ่งทอและผลิตภัณฑ์ข้างเคียง รวมทั้งรองเท้า
5. ไข่มุก อัญมณี โลหะ
6. ผลิตภัณฑ์จากแร่ธาตุ
7. เชื้อเพลิงจากแร่ ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์จากการกลั่น
ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์ที่รัสเซียส่งมาไทยประกอบด้วย
1. โลหะและผลิตภัณฑ์ที่ทําจากโลหะ
2. ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเคมีและยาง
3. ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุ
4. เชื้อเพลิงแร่น้ํามันและผลิตภัณฑ์จากการกลั่น
5. ไข่มุก อัญมณี โลหะ
6. อาหารและวัตถุดิบทางการเกษตร
7. วัตถุดิบสำหรับเครื่องหนังและขนสัตว์
8. เครื่องจักรอุปกรณ์
นอกจากนี้ นอกจากนักท่องเที่ยวรัสเซียจะเข้าไทยมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ แล้ว รัสเซียยังเป็นคู่ค้าสำคัญของประเทศไทยลำดับที่ 37 รวมทั้งเป็นคู่ค้ารายแรกใน สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Union) และในปี 2566 มูลค่าการซื้อขายสุทธิระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ที่ 5.344 หมื่นล้านบาท (หรือ 1.5 พันล้านดอลลาร์อย่างที่กล่าวไปข้างต้น) โดยคิดเป็นมูลค่าส่งออกไปรัสเซียอยู่ที่ 2.922 หมื่นล้านบาทและนำเข้าจากรัสเซีย 2.421 หมื่นล้านบาทซึ่งหมายความว่าไทยได้ดุลจากค้าจากรัสเซียประมาณ 5 พันล้านบาท
5 คำแนะนำขยายตลาดในรัสเซีย
สำหรับภาคธุรกิจของประเทศไทยที่ต้องการเข้าไปขยายกิจการในรัสเซีย นายวารินทร์ แคร่า รองประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Cloudsec Asia ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ แนะนำ 5 หลักการดังนี้
- ยอดรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมและโอบรับความแตกต่างนั้น
- ปรับปรุงสินค้าของตัวเองให้เข้ากับความชอบและรสนิยมของผู้บริโภคชาวรัสเซีย
- เข้าร่วมมหากรรมทางธุรกิจหรือเวทีเสวนาเพื่อหาพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น
- คัดเลือกพาร์ทเนอร์ในจำนวนที่สามารถดูแลและพูดคุยได้อย่างทั่วถึง
- ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎระเบียบของกลุ่มความร่วมมืออย่างชัดเจนและ