เปิดที่มา ‘บะหมี่รสเผ็ดซัมยัง’ พลิกชีวิตแม่บ้าน สู่เศรษฐินีเกาหลีใต้
เปิดที่มา "ซัมยัง" (Samyang) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเผ็ดจากเกาหลีใต้ พลิกชีวิตแม่บ้านที่เคยเลี้ยงลูกอยู่แต่บ้าน สู่เศรษฐินีเกาหลีใต้ หลังปิ๊งไอเดียสูตรบะหมี่รสเผ็ด จากการได้เห็นคนกินไก่ทอดรสเผ็ดแล้วมีความสุข
บะหมี่ซัมยัง (Samyang) แบรนด์บะหมี่สำเร็จรูปสัญชาติเกาหลีใต้ที่คนไทยรู้จักกันดี โดยรสที่เป็นที่นิยมคือรสไก่สูตรเผ็ดแบบแห้ง จากนั้นแบรนด์ก็ผลิตบะหมี่ออกมาอีกหลากหลายรสชาติเรื่อย ๆ ซึ่งความนิยมเหล่านี้มาต้นกำเนิดมาจากวิดีโอรีวิวบะหมี่ในยูทูบเมื่อหลายปีก่อน
บลูมเบิร์กเผยว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ช่องยูทูบของชาวอังกฤษคนหนึ่งได้ทำคลิปพยายามกินบะหมี่พุลดัก (Buldak) หรือบะหมี่รสไก่สูตรเผ็ด จากนั้นคลิปก็ไวรัลอย่างรวดเร็ว คนจำนวนมากหันมาทำคลิปสั้นรีวิวการรับประทานบะหมี่ที่ขึ้นชื่อว่าเผ็ดมากๆ ในขณะนั้น ซึ่งมาแรงถึงขนาดที่ "คาร์ดี้ บี" แรปเปอร์สาวรางวัลแกรมมีชื่อดังออกมาเล่าด้วยว่า เธอยอมขับรถนาน 30 นาที เพื่อหาซื้อบะหมี่นี้
ขณะที่เมื่อต้นปี 2567 เดนมาร์กได้เรียกคืนบะหมี่ของซัมยัง โดยอ้างว่าพบสารให้ความเผ็ดสูงเสี่ยงเป็นพิษต่อร่างกายได้ ด้านชาวเน็ตบางคนออกมาโต้ว่า ชาวเดนมาร์กอาจจะทานรสเผ็ดได้น้อยเอง
ทั้งนี้ เบื้องหลังบะหมี่รสเผ็ดเลื่องชื่อที่ประสบความสำเร็จของเกาหลีใต้นั้นมาจากนางคิม จองซู ชาวเกาหลีใต้วัย 60 ปี ผู้บริหารบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ “Samyang Roundsquare”
คิมจากที่เคยทำหน้าที่แม่อยู่แต่ในบ้าน ต้องเจอกับเหตุการณ์พลิกผันในชีวิต เมื่อพ่อของสามีขอให้เธอเข้าร่วมบริษัทซัมยังฟู้ด (Samyang Food) ธุรกิจครอบครัวที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในปี 2541 และปัจจุบันเธอเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท
พัค จูกุน หัวหน้าฝ่ายวิจัยองค์กร Leaders Index ในกรุงโซล บอกว่า
“คิมไม่มีประสบการณ์ด้านการจัดการมาก่อน เป็นเรื่องแปลกมากที่พ่อสามีของเธอให้เธอเข้าร่วมบริหารบริษัท แทนที่จะพิจารณาให้สมาชิกในครอบครัวผู้ชายคนอื่น ๆ เข้ามาดำรงตำแหน่งของเธอ”
ปิ๊งไอเดีย เห็นคนกินไก่เผ็ดมีความสุข
เมื่อปี 2554 คิมคิดไอเดียราเมงพุลดักออก หลังจากเธอเห็นว่าผู้คนมีความสุขมากเพียงใดเมื่อรับประทานไก่ทอดรสเผ็ดที่ร้านอาหารเกาหลี แม้เหงื่อแตกและดูเหนื่อยมากก็ตาม
คิม ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นเมื่อเดือนก.พ. ว่า ในการคิดค้นบะหมี่รสไก่สูตรเผ็ดช่วงแรก ใช้ไก่ 1,200 ตัว กับซอส 2 ตัน แต่ก็ยังเป็นรสชาติที่ไม่มั่นใจนัก เพราะเผ็ดมากเกินไป
คิม แทฮยอน นักวิเคราะห์ IBK Securities ในกรุงโซล ระบุในรายงานเมื่อต้นเดือนธ.ค. ว่า ช่วงหลัง ๆ ความต้องการเพิ่มสูงขึ้น และบริษัทไม่สามารถรองรับดีมานด์และเติมเต็มสินค้าให้กับห้างสรรพสินค้า Walmart และ Costco ทั่วสหรัฐได้
บะหมี่เผ็ดทำเงิน
ตอนนี้ราเมงกึ่งสำเร็จรูปซัมยังที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ หนุนให้ทรัพย์สินของนางคิม สามี และลูก ๆ พุ่งสูงขึ้น 215% ในปีนี้ สู่ระดับเกือบ 1.1 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของดัชนีมหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) และในช่วง 9 เดือนแรกของปี ซัมยังมีรายได้พุ่ง 44.2% สู่ระดับ 1.2 ล้านล้านวอน (839 ล้านดอลลาร์) ซึ่งรายได้ 75% มาจากการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
โดยตลาด “สหรัฐ” ที่เพิ่งมีบะหมี่พุลดักจำหน่ายเมื่อ 2 ปีก่อน ได้กลายเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทไปแล้ว มีสัดส่วนราว 20% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเท่ากับว่าเติบโตจากปีก่อนราว 120%
ผลประกอบการของซัมยังปัจจุบัน ถือเป็นจุดพลิกผันจากช่วงที่บริษัทเผชิญความเสี่ยงล้มละลายในวิกฤติการเงินเอเชียช่วงปลายทศวรรษ 1990 ในตอนนั้นหุ้นที่ครอบครัวผู้ก่อตั้งธุรกิจถือไว้ต้องมอบให้กับเจ้าหนี้ และเพิ่งได้รับคืนในปี 2548
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเศรษฐินีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีใต้ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะในปี 2563 นางคิมและสามีถูกตัดสินว่ามีความผิดข้อหายักยอกเงินของบริษัท 5 พันล้านวอน และใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน และหนี้บัตรเครดิต
คิมได้รับคำตัดสินรอลงอาญา แต่สามีของเธอที่เป็นประธานซัมยังในขณะนั้นมีโทษจำคุก 3 ปี และนางคิมเพิ่งได้รับอภัยโทษเมื่อปีที่แล้ว และคิมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตามรายงานของ DS Investment and Securities ระบุว่า หลังจากซัมยังขยายธุรกิจไปยังสหรัฐและจีน บริษัทอาจเติบโตได้อีกเรื่อยๆในต่างประเทศ และได้ตั้งบริษัทใหม่ในเนเธอแลนด์แล้ว เพื่อขยายธุรกิจในยุโรป
เควิน ฮาน นักวิเคราะห์วิจัยจากยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล บอกว่า เมื่อพุลดักได้รับความนิยมไปทั่วโลก แม้ในตอนแรกถูกมองว่าเป็นกระแสชั่วคราวเท่านั้น แต่หากผลิตภัณฑ์สามารถมอบคุณค่าให้กับผู้บริโภค ทั้งประสบการณ์ที่สนุกสนานและแปลกใหม่ ผมคิดว่าแบรนด์นี้จะมีการเติบโตที่ยั่งยืนในตลาดโลกได้”