ไม่ยอมแพ้! ‘ปธน.ยุน ซ็อกยอล’ แถลง จะทำหน้าที่เพื่อชาติจนนาทีสุดท้าย
ประธานาธีบดียุน ซ็อกยอล แถลงไม่ยอมแพ้ ! หลังรัฐสภามีมติถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ลั่น จะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อชาติจนนาทีสุดท้าย
ประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ของเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) ว่า ตนจะไม่ยอมแพ้ หลังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ลงมติถอดถอนตนเองออกจากตำแหน่ง
“แม้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ในขณะนี้ แต่เส้นทางที่เราเดินไปสู่อนาคตร่วมกันในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาไม่ควรหยุดแค่นี้” ยุน กล่าวแถลง 4 นาทีครึ่ง เมื่อเวลาราว 18.15 น. ของวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น
“ผมจะรับคำวิจารณ์ กำลังใจ และแรงสนับสนุนทั้งหมดไว้ และผมจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อประเทศชาติจนถึงนาทีสุดท้าย”
ปธน.ยุน ถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อความพยายามประกาศใช้กฎอัยการศึกที่ล้มเหลวเมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค. และส่งทหารเข้าควบคุมพื้นที่อาคารรัฐสภาเพื่อกีดกัดไม่ให้มีการลงมติยกเลิกกฎดังกล่าว
นิกเกอิ เอเชีย ระบุว่า ถ้อยแถลงของ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ครั้งล่าสุดนี้ มีน้ำเสียงที่ถ่อมตัวมากกว่าการแถลงข่าวครั้งก่อน โดยการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) ปธน.ยุนไม่ได้มีความพยายามที่จะลาออกด้วยตัวเอง และปกป้องกฎอัยการศึกที่ล้มเหลวของตน บอกว่าเป็นการประกาศที่ทำไปเพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบว่า ประเทศอาจล่มสลาย
นอกจากนี้ ปธน.ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จในระหว่างที่ดำรงแหน่ง โดยบอกว่า ตนได้ทำงานเพื่อปฏิรูปวัฒนธรรมการเมืองเกาหลีใต้ และยกระดับสถานะการต่างประเทศของชาติ
“ผมทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้นฟูความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐ และญี่ปุ่น และขยายขอบเขตด้านการทูตระดับโลก” ยุน กล่าวเสริม
การยื่นถอดถอนประธานาธิบดี เกาหลีใต้ ทำให้ยุนถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ และต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชี้ขาดว่า ปธน.ยุน ซ็อกยอล จะได้อยู่ต่อ หรือถูกปลดจากตำแหน่ง
เมื่อวันเสาร์ รัฐสภาเกาหลีใต้มีมติถอดถอนประธานาธิบดี 204 เสียง จากทั้งหมด 300 เสียง หรือเกินเสียง 2 ใน 3 ของรัฐสภา และมีมติให้ดำรงตำแหน่งต่อ 85 เสียง หลังจากที่การยื่นถอดถอนปธน.ล้มเหลวเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค. เนื่องจากสมาชิกพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล คว่ำมติไม่เข้าร่วมลงคะแนน
ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ฮัน ด็อกซู ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนปธน.ยุน ชั่วคราว
ขณะเดียวกันอัยการ ตำรวจ และสำนักงานสอบสวนการทุจริตเจ้าหน้าที่ระดับสูง กำลังสอบสวนปธน.ยุน ในข้อหาก่อกบฏ ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้สิทธิคุ้มครองประธานาธิบดี ส่วนอดีตรัฐมนตรีกลาโหมและเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงอีก 2 คน ถูกจับกุมในข้อกล่าวหาเดียวกันแล้ว
อ้างอิง: Nikkei Asia