‘เคปทาวน์’ เมืองท่องเที่ยวระดับโลก และความเชื่อมโยงกับไทย | World Wide View
รู้จักเมืองเคปทาวน์ เมืองที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เสน่ห์ของเมืองคืออาหารเลิศรส และมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม
เมืองเคปทาวน์เป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ โดยเป็นเมืองแรกที่ชาวยุโรป โดยเฉพาะชาวดัตช์และชาวอังกฤษเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแอฟริกาใต้เมื่อ 400 ปีก่อน และด้วยที่ตั้งของเมืองเคปทาวน์ซึ่งอยู่บนเส้นทางยุทธศาสตร์การเดินเรือสำคัญในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ เมืองเคปทาวน์จึงเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้
ปัจจุบัน เมืองเคปทาวน์เป็นเมืองหลวงของมลรัฐ Western Cape มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับสองของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแอฟริกาใต้ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังเป็นศูนย์กลางของการเพาะปลูกผลไม้และผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียง และมีท่าเรือและท่าอากาศยานนานาชาติที่สำคัญเป็นอันดับสองของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้
หนึ่งในความโดดเด่นของเมืองเคปทาวน์คืออาหารเลิศรส ชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากในเมืองเคปทาวน์ตั้งแต่อดีตได้นำวัฒนธรรมอาหารการกินเข้ามาเผยแพร่ พร้อมนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้ผสมผสานอย่างลงตัว
เมนูที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ สเต็กเนื้อย่างที่เสิร์ฟคู่กับไวน์แดงแอฟริกาใต้อันโด่งดัง นอกเหนือจากอาหารฝรั่งที่สามารถหารับประทานได้ทั่วไปแล้ว ในเมืองเคปทาวน์ยังมีอาหารหลากหลายสัญชาติให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองอีกด้วย เช่น อาหารแอฟริกา อาหารอิตาเลียน อาหารไทย อาหารเวียดนาม อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น และอาหารอินเดีย เป็นต้น ในปี 2567 นิตยสารท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง Condé Nast Traveler จัดอันดับให้เมืองเคปทาวน์เป็นเมืองที่มีอาหารอร่อยที่สุดในโลก โดยกรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับที่ 7
จุดเด่นอีกประการของเมืองเคปทาวน์คือ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นแหลมกู๊ดโฮป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือสายประวัติศาสตร์ของโลกที่ค้นพบโดยวาสโกดากามา นักสำรวจทางทะเลชาวโปรตุเกส แหลมอะกะลัส จุดใต้สุดของทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นจุดแวะพักสำคัญของเรือที่จะเดินทางไปทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย อยู่ห่างจากเมืองเคปทาวน์ไปทางทิศใต้ และเป็นบริเวณที่เรือซึ่งนำราชทูตไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไปเจริญพระราชไมตรีกับโปรตุเกสอับปางลงเมื่อปี พ.ศ. 2229
ภูเขารูปโต๊ะ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของเมืองเคปทาวน์ เกาะร็อบเบน เกาะที่อยู่ห่างชายฝั่งเมืองเคปทาวน์ 9.6 กิโลเมตร ซึ่งเคยใช้เป็นที่คุมขังอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลลา นานกว่า 18 ปี ชายหาดเพนกวิน ซึ่งเป็นชายหาดที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของนกเพนวินสายพันธุ์แอฟริกาซึ่งมีเฉพาะที่เมืองเคปทาวน์
เมืองเคปทาวน์เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทยด้านการส่งออกสินค้า รัฐบาลมลรัฐ Western Capeให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการส่งออกสินค้า ส่งผลให้เมืองเคปทาวน์ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือเมืองเคปทาวน์ซึ่งมีปริมาณการขนถ่ายสินค้าเป็นอันดับ 2 ของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ กลายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างทวีปอเมริกาและทวีปยุโรปกับทวีปเอเชีย และตะวันออกไกลกับออสเตรเลีย ด้วยเหตุนี้ เมืองเคปทาวน์จึงมีศักยภาพในการเป็นแหล่งกระจายสินค้าสำคัญของไทยไปยังประเทศใกล้เคียงในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการริเริ่มการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีกับสาธารณรัฐแอฟริกาใต้และประเทศในกลุ่มสหภาพศุลกากรแอฟริกาตอนใต้อีก 4 ประเทศ คือ บอตสวาสนา นามิเบีย เลโซโท และเอสวาตินี ซึ่งหากบรรลุผลก็จะช่วยสร้างโอกาส ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยและลดอุปสรรคด้านการค้าระหว่างกัน หากในอนาคตอันใกล้ มีการเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ กับนครโจฮันเนสเบิร์กและเมืองเคปทาวน์ของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ก็จะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือและการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น