'ทรัมป์’ ยอมถอยแผนยึด ‘กาซา’ หลัง 'อาหรับ - พันธมิตร' คัดค้านหนัก!

ทำเนียบขาวออกมาแก้ข่าวประเด็น “ทรัมป์จะเทคโอเวอร์กาซา” โดยบอกว่า สหรัฐเพียงต้องการให้ชาวปาเลสไตน์ ย้ายถิ่นฐานออกจากฉนวนกาซาชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้ให้ไปตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างถาวร หลังจากพันธมิตร และชาติอาหรับออกมาคัดค้านแนวคิดดังกล่าว
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวชี้แจงเมื่อวันพุธ (5 ก.พ.68) ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ต้องการให้ชาวปาเลสไตน์ “ย้ายถิ่นฐาน” ออกจากฉนวนกาซาชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้ให้ไปตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างถาวรในประเทศที่มีชาวอาหรับเป็นส่วนใหญ่ เช่น อียิปต์ และย้ำว่าการฟื้นฟูบูรณะกาซาไม่ได้ใช้เงินสหรัฐ และจะไม่มีการส่งทหารอเมริกันเข้าไปในกาซา
การชี้แจงดังกล่าว มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดี ทรัมป์ เผยแผนช็อกโลกเมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.68) ว่า เขาจะเทคโอเวอร์ฉนวนกาซา และจะรับผิดชอบรื้อถอนระเบิด และอาวุธอันตรายต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ พร้อมพัฒนาเมือง และสร้างงานเป็นพันๆ อัตรา
หลายฝ่ายต่างออกมาแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับไอเดียดังกล่าวจำนวนมาก แม้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าว “คุ้มค่าแก่การให้ความสนใจ” แต่ก็ถูกชาติอาหรับ และพันธมิตรของสหรัฐ ปฏิเสธแนวคิดนี้อย่างหนักแน่น
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พันธมิตรของสหรัฐ ออกมาเตือนทรัมป์เมื่อวันพุธ ว่า ให้หลีกเลี่ยงการกวาดล้างในกาซา หลัง ปธน.สหรัฐ เคยเสนอไว้ว่าจะให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายไปอยู่ที่อื่น และสหรัฐจะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ และเน้นย้ำว่า วิธีแก้ไขปัญหาจะต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงมากขึ้นไปอีก และต้องยึดมั่นในหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันควรใช้ “แนวทางสองรัฐ” แก้ไขปัญหา
ส่วนชาติอาหรับ และชาวปาเลสไตน์ออกมาปฏิเสธแนวคิดเทคโอเวอร์กาซาของทรัมป์อย่างแข็งขัน
มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีแห่งรัฐปาเลสไตน์ กล่าวว่า จะไม่ยอมให้สิทธิของประชาชนของตนถูกละเมิด และเตือนว่า กาซา “เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งที่สำคัญของรัฐปาเลสไตน์” และการบังคับอพยพประชาชนเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
ขณะที่อียิปต์ และจอร์แดนก็ไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยปฏิเสธไอเดียของทรัมป์ที่จะให้จอร์แดนและอียิปต์รับชาวปาเลสไตน์เพิ่ม
ด้านซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่ควรต้องย้ายออกจากดินแดนของตนเอง ส่วนชาวปาเลสไตน์เองก็บอกว่าแผนดังกล่าวไม่มีทางเป็นไปได้
ชายชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในกาซาเผยว่า จะขออยู่ในกาซา และฟื้นฟูพื้นที่ใหม่ และขอยอมตายในกาซาดีกว่าต้องจากบ้านเกิดตัวเอง
ด้านผู้นำชาวอาหรับอเมริกัน และผู้นำมุสลิม ที่เคยสนับสนุนทรัมป์ในการหาเสียงเลือกตั้งก็เสียงแตกเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยบางกลุ่มออกมาคัดค้านไอเดียของทรัมป์ ขณะที่บางกลุ่มไม่ได้คัดค้านเด็ดขาด
บิชารา บาห์บาห์ ผู้ก่อตั้ง Arab Americans for Trump และช่วยหาเสียงสนับสนุนทรัมป์ในรัฐมิชิแกน และรัฐสวิงสเตตอื่นๆ เชื่อว่าแนวคิดของทรัมป์มีเจตนาดี แต่กลุ่มขอต่อต้านการย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้านเกิดของตนเอง และย้ำว่า ตนยังคงสนับสนุนทรัมป์ เพราะมองว่าเขาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในกาซา
ขณะที่กลุ่มมุสลิมบางกลุ่ม มองว่า ไม่ผิดหวังที่สนับสนุนทรัมป์ เพราะยังคงเชื่อมั่นทรัมป์มากกว่าอดีต ปธน.โจ ไบเดน และอดีตรอง ปธน.คามาลา แฮร์ริส แต่ยังคงสงสัยว่าทรัมป์จะสามารถทำตามแนวคิดนั้นได้จริงหรือไม่
ด้าน จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของทรัมป์ ซึ่งเป็นสามีของอิวานกา ลูกสาวของทรัมป์ เคยเปรยเมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับกาซาว่าเป็นพื้นที่ ที่น่าสนใจ
คุชเนอร์ กล่าวไว้ว่า “อสังหาริมทรัพย์ริมน้ำของกาซาอาจมีค่ามาก หากผู้คนให้ความสำคัญกับการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่”
คุชเนอร์ ยังได้กล่าวในงานบรรยาย งานหนึ่งของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อเดือนก.พ.ปี 2567 ด้วยว่า ความขัดแย้งในกาซาเป็น “เพียงข้อพิพาทด้านอสังหาริมทรัพย์ระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์”
อย่างไรก็ตาม บีบีซีเผยว่า ถ้าสหรัฐจะยึดครองกาซาอาจทำได้ยาก เพราะอาจมีการแทรกแซงทางทหารครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง ซึ่งทรัมป์เองก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น
อ้างอิง: BBC, BBC, Reuters, Reuters, Reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์