Tesla เตือนภาษีทรัมป์กระทบยานยนต์สหรัฐ สายการผลิตเสี่ยงปิดตัว

‘เทสลา’ เตือนภาษีทรัมป์กระทบยานยนต์สหรัฐ โรงงานประกอบอาจหยุดชะงัก สายการผลิตเสี่ยงปิดตัว เสนอขึ้นภาษีแบบ ‘ขั้นบันได’ ให้บริษัทมีเวลาปรับตัวด้านห่วงโซ่อุปทาน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าบริษัท เทสลา (Tesla) ได้เตือนว่าบริษัท และผู้ส่งออกรายใหญ่รายอื่นๆ ของอเมริกาอาจเผชิญกับ “ภาษีตอบโต้” หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาจัดเก็บภาษีศุลกากรจำนวนมากกับยานพาหนะ และชิ้นส่วนที่ผลิตนอกสหรัฐในช่วงต้นเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิตของเทสลาสูงขึ้น และทำให้เทสลามีความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้น้อยลง
นโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงการประกาศ และการเลื่อนขึ้นภาษีกับประเทศเพื่อนบ้าน การกำหนดภาษีนำเข้าโลหะ และการข่มขู่ว่าจะเพิ่มภาษีสินค้าจากยุโรปบางรายการที่สูงถึง 200% ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเตรียมตัวรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คุกคามห่วงโซ่อุปทาน และอาจทำให้ราคารถยนต์เพิ่มขึ้นหลายพันดอลลาร์
Tesla เสนอขึ้นภาษีแบบ ‘ขั้นบันได’
Tesla กล่าวในจดหมายถึงเจมสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ(USTR) เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 ที่ผ่านมาว่า เมื่อสหรัฐออกมาตรการทางการค้ากับประเทศอื่น ผู้ส่งออกของสหรัฐมักได้รับผลกระทบอย่างไม่เหมาะสมเพราะประเทศเป้าหมายมักตอบโต้ทันที เช่น การขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐ
Tesla เตือนว่าถึงแม้จะพยายามจัดหาวัตถุดิบในประเทศอย่างเข้มงวดแล้ว แต่ก็ยังมีชิ้นส่วน และส่วนประกอบบางอย่างที่หาได้ยากหรือไม่สามารถหาได้เลยในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ Tesla ยังเสนอว่าบริษัทต่างๆ จะได้ประโยชน์มากกว่าหากรัฐบาลใช้วิธีการทยอยบังคับใช้มาตรการทีละขั้นตอน เพื่อให้บริษัทมีเวลาเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม และสามารถปรับตัวด้านห่วงโซ่อุปทาน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างถูกต้อง
“ในฐานะผู้ผลิต และผู้ส่งออกของสหรัฐเทสลาขอให้ USTR พิจารณาผลกระทบที่จะตามมาจากมาตรการบางอย่างที่เสนอเพื่อแก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรม" เทสลา ระบุในจดหมาย
ส่วน Autos Drive America ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าที่แทนผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติรายใหญ่ เช่น โตโยต้า, โฟล์คสวาเกน, บีเอ็มดับเบิลยู, ฮอนด้า และฮุนได ก็ได้เตือน USTR ในความเห็นอีกฉบับว่า หากกำหนด "ภาษีศุลกากรแบบกว้างๆ จะทำให้การผลิตในโรงงานประกอบในสหรัฐต้องหยุดชะงัก"
"ผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานได้ในชั่วข้ามคืน และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นย่อมนำไปสู่ราคาที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับผู้บริโภค อาจทำให้มีการออกรถยนต์รุ่นใหม่น้อยลง จนสายการผลิตในสหรัฐต้องปิดตัวลง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียตำแหน่งงานในห่วงโซ่อุปทาน"
สงครามการค้ากดดัน 'ยอดขาย' ค่ายสหรัฐ
ความคิดเห็นล่าสุดจาก Tesla สะท้อนความกังวลของ Vaibhav Taneja ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของ Tesla โดยในการรายงานผลประกอบการบริษัท Taneja กล่าวว่า "การกำหนดภาษีศุลกากรที่มีแนวโน้มจะสูงมาก และการตอบโต้ต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และผลกำไรของเรา"
สงครามการค้าครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความท้าทายให้กับผู้ผลิตรถยนต์ที่กำลังเผชิญปัญหาต่างๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นยอดขายที่ลดลงในตลาดสำคัญ ราคาหุ้นที่ตกลงอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะเทสลาที่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์ทำลายทรัพย์สินในโชว์รูมของ Tesla และการตอบโต้ต่ออีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของบริษัทซึ่งมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ ในฐานะหัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพ หรือ “DOGE”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์