นายกฯ ญี่ปุ่นลั่น พร้อมใช้ทุกวิถีทางเจรจารับมือภาษีรถยนต์สหรัฐ

นายกฯ ญี่ปุ่นลั่น พร้อมใช้ทุกวิถีทางเจรจารับมือภาษีรถยนต์สหรัฐ

'ชิเกรุ อิชิบะ' เผยจะนำทุกทางเลือกมาพิจารณา รับมือสหรัฐเก็บภาษีรถยนต์ 25% แต่ยังไม่ระบุชัดจะ 'ตอบโต้' หรือไม่ ด้านโนมูระชี้อาจฉุดจีดีพีญี่ปุ่นวูบ 0.2%

นายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (27 มี.ค.) ว่า ได้เตรียม "ทุกทางเลือก" เอาไว้แล้วในการจัดการกับภาษีรถยนต์ของสหรัฐ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะนำทุกทางเลือกมาพิจารณา ในการเจรจารับมือกับการเรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าของสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อาจจะใช้ "มาตรการตอบโต้" ตามมา

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธว่า จะมีการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกทั้งหมดที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐ 25% เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า ทำให้บรรยากาศของสงครามการค้าโลกที่คุกรุ่นอยู่แล้วยิ่งตึงเครียดและขยายวงกว้างขึ้น

"ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ลงทุนกับสหรัฐมากที่สุด ดังนั้นเราจึงสงสัยว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ที่ (วอชิงตัน) จะจัดเก็บภาษีแบบเดียวกันกับทุกประเทศ นั่นเป็นประเด็นที่เราพูดถึงมาตลอดและจะยังคงทำต่อไป" อิชิบะกล่าวต่อรัฐสภาในกรุงโตเกียว

"เราจำเป็นต้องพิจารณาว่าอะไรคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผลประโยชน์ชาติของญี่ปุ่น เรากำลังนำทุกทางเลือกมาพิจารณาในการตอบสนองที่มีประสิทธิผลที่สุด" อิชิบะกล่าว แต่ไม่ได้ระบุถึงขั้นตอนความเป็นไปได้ที่โตเกียวอาจดำเนินการต่อ

บรรดานักวิเคราะห์ต่างระบุว่า การเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐ โดยรถยนต์คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 28.3% ของการส่งออกทั้งหมดของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐในปี 2567 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงที่สุดในบรรดารายการสินค้าทั้งหมด ตามข้อมูลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่น

อุตสาหกรรมรถยนต์คิดเป็นประมาณ 3% ของจีดีพีญี่ปุ่น และเป็นแรงผลักดันสำคัญของการปรับขึ้นค่าจ้างเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แจกจ่ายกำไรมหาศาลที่ได้รับจากต่างประเทศให้กับพนักงานของตน

ทาคาฮิเดะ คิอุจิ นักเศรษฐศาสตร์บริหารของสถาบันวิจัยโนมูระ คาดว่าการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐ 25% จะทำให้ GDP ของญี่ปุ่นลดลงมากถึงราว 0.2%

“ภาษีนำเข้าของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นทรุดตัวลงทันที” เขากล่าว

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นต่างปรับตัวลงอย่างหนักระหว่างการซื้อขาย ราคาหุ้นของ "โตโยต้า มอเตอร์" ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วงลงถึง 4% ส่วน "ฮอนด้า มอเตอร์"  ซึ่งมีรายได้หลักมาจากตลาดอเมริกาเหนือ ร่วงลง 3% "นิสสัน มอเตอร์" ลดลง 3.5% และ "มาสด้า มอเตอร์" ลดลง 5%