‘Butterbear’ มาสคอตที่มีชีวิต สู่การเป็น ‘Soft Power’ ของไทย | World Wide View

"Butterbear" หรือ น้องเนย มาสคอตที่มีชีวิต สู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ที่ไม่ใช่แค่คนไทยหลงรัก แต่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนยังชื่นชอบมีเนยมากเช่นกัน
“น้องเนย” มาสคอตมีชีวิตที่ช่วยโอบกอดและเยียวยาจิตใจให้แก่ผู้คนทุกเพศทุกวัยและจุดเด่น 2 ประการได้แก่ การเล่าเรื่องราวและกลยุทธ์ทางการตลาดผลักดันให้ น้องเนยกลายเป็นอีกหนึ่ง “Soft Power” สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของ “น้องเนย (Butterbear)” มาจากการเป็นมาสคอตนำเสนอร้านขนม ButterBear ในเครือ Coffee Bean by Dao ณ ศูนย์การค้า Emsphere เมื่อปี 2566 ไม่นานน้องเนยก็โด่งดังและเป็นที่รู้จัก ด้วยวิธีการเล่าเรื่องราว และการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดมิติใหม่ที่มัดใจผู้คนที่เข้าไปเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน
เริ่มต้นที่วิธีการนำเสนอเรื่องราว (storytelling) ผ่านรูปแบบของการสร้างตุ๊กตาที่มีบุคลิก (character) คล้ายกับมนุษย์ ได้แก่ หน้าตาที่น่ารัก แววตาสดใส รอยยิ้มที่จริงใจ นอกจากนี้ การแสดงหน้าร้านในช่วงสุดสัปดาห์ผ่านการเต้นเพลงเฉพาะตัวของน้องเนย เช่น น่ารักไหมไม่รู้ ฮีลใจ รวมถึงการเต้นเพลงที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนั้น ยิ่งเป็นสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง (sense of belonging) ได้แก่ ความผูกพันและการเป็นพื้นที่ปลอดภัยซึ่งสามารถเยียวยาจิตใจ ให้แก่ผู้คนได้ราวกับว่ามาสคอตนั้นมีชีวิตอยู่จริง
จุดขายต่อมาคือ กลยุทธ์ทางการตลาด หนีไม่พ้นการใช้มาสคอตเป็นจุดขายสำคัญของทางแบรนด์ เมื่อน้องเนยได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดฐานแฟนคลับมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีน
แอพลิเคชัน Xiaohongshu ของจีน กลายเป็นตลาดออนไลน์ที่สำคัญต่อยอดกระแสความดังของน้องเนย โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสินค้า (Merchandise) Butterbear ได้ถูกวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เช่น กล่องสุ่ม นอกจากนี้ Butterbear ได้ร่วม Collaboration กับแบรนด์ชื่อดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 7-eleven, Gucci, Naraya และล่าสุดคือกิจกรรม FanMeeting น้องเนยครั้งแรกในต่างประเทศ ณ เมืองหนานจิง ประเทศจีน
จากมาสคอต สู่ “Soft Power” เมืองไทย Butterbear ได้สอดแทรกเรื่องราวความเป็นไทยผ่านบุคลิกซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของมาสคอต คือ การไหว้และการแต่งกาย มากไปกว่านั้น การร่วม Collaboration กับสินค้า แบรนด์ไทย และการเป็น presenter ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยิ่งย้ำความสำเร็จในฐานะมาสคอตที่คนเล็งเห็นถึงความสามารถในการช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ
ปัจจัยแห่งความสำเร็จอันเป็นที่ประจักษ์ของ Butterbear ทั้งการเล่าเรื่องราวและกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความรักและเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้คน แต่ยังนำไปสู่การเป็น “Soft Power” ของเมืองไทย
สมดังความตั้งใจของคุณธนวรรณ วงศ์เจริญรัตน์ เจ้าของแบรนด์ที่ต้องการสร้างความสุขและมอบของขวัญเยียวยาจิตใจแก่ผู้คนให้พ้นจากความเครียดที่ต้องเจอในสังคมปัจจุบัน