'Reciprocal Tariffs' ของทรัมป์ ดัน ภาษีการค้า สูงสุดในรอบ 100 ปี

"ภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทน" ของโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลบังคับใช้เรียบร้อย ส่งผลให้ "ภาษีการค้า" ของสหรัฐ ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 100 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1909
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (9 เม.ย.68) ว่า ภาษีศุลกากรแบบ "ต่างตอบแทน" หรือ Reciprocal Tariffs ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลบังคับใช้แล้ว และสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกโดยส่งผลให้ภาษีทางการค้าสหรัฐสูงที่สุดในรอบ 100 ปี ท่ามกลางความต้องการของทรัมป์ในการสร้างระเบียบการค้าโลกใหม่
ทั้งนี้ ภาษีศุลกากรล่าสุดของทรัมป์ทำให้ภาษีที่เรียกเก็บจากจีนในปี 2025 สูงถึง 104% พร้อมกับภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้ากว่า 60 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์เพิ่งจะขึ้นภาษีแบบพื้นฐาน (Baseline) ที่ 10% สำหรับประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันเสาร์
ด้านกลุ่มประเทศในเอเชียแบกรับผลกระทบจากมาตรการนี้มากที่สุด โดยกัมพูชา และเวียดนามเผชิญกับอัตราภาษี 49% และ 46% ตามลำดับ และสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 20%
"ภาษีศุลกากรมีผลบังคับใช้แล้ว และเงินกำลังไหลเข้ามาในระดับที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และมันจะดีสำหรับเรา มันจะดีสำหรับประเทศอื่นๆ ด้วย เราถูกเอาเปรียบ และถูกละเมิดโดยประเทศต่างๆ มาหลายปี" ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันอังคารในงานที่ทำเนียบขาว
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอย่างต่อเนื่องโดย อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) อายุ 30 ปี พุ่งขึ้นมากกว่า 0.2% สู่ 4.98% และหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 วันในการซื้อขายวันพุธ ตลาดยังคงผันผวนตลอดทั้งวันอังคารในสหรัฐ โดยฟื้นตัวขึ้นเมื่อทรัมป์เปิดเผยการเจรจากับเกาหลีใต้ จากนั้นกลับตัวลงเมื่อฝ่ายบริหารยืนยันแผนการดำเนินการกับภาษีศุลกากรจีนที่สูงมาก
ในชั่วโมงก่อนการบังคับใช้ภาษีศุลกากรแบบ ต่างตอบแทนซึ่งตรงกับเวลา 00.01 น. วันพุธในกรุงวอชิงตัน "ทำเนียบขาว" ยืนยันว่าการบังคับใช้ภาษีศุลกากรเกิดขึ้นจริง ส่งผลให้การคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการระงับในนาทีสุดท้ายหมดไป การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ภาษีศุลกากรสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งศตวรรษ และเสี่ยงต่อสงครามการค้าเต็มรูปแบบหากประเทศอื่นๆ ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ
ณ เวลา 14.09 น. ตามเวลาปักกิ่งของวันพุธ จีนยังไม่ได้ประกาศมาตรการตอบโต้ใดๆ ซึ่งแตกต่างจากเดือนก.พ.และ มี.ค. เมื่อจีนประกาศการตอบโต้เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ภาษีศุลกากรของสหรัฐ รอบก่อนๆ มีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ ภาษีศุลกากรของจีนในขณะนี้รวมถึงภาษี 20% ก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเฟนทานิล, ภาษีแบบต่างตอนแทน 34% ที่คำนวณจากดุลการค้าทวิภาคี และภาษีเพิ่มเติม 50% ที่ทรัมป์ประกาศหลังจากปักกิ่งกล่าวว่า จะตอบโต้โดยเก็บภาษีจากการส่งออกของสหรัฐ ไปยังจีน
อ้างอิง: Bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์