‘ไต้หวัน’ ลุยเจรจา 'สหรัฐ' ครั้งแรก ยื่นข้อเสนอภาษีนำเข้าเป็นศูนย์

บลูมเบิร์กรายงานว่าเจ้าหน้าที่ “ไต้หวัน” ได้จัดการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรครั้งแรกกับเจ้าหน้าที่ “สหรัฐ”  เมื่อวันศุกร์ที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลไต้หวันเปิดเผยวันนี้(12เม.ย.) ว่าทั้งสองฝ่ายหวังจะมีการหารือเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ 

ไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ จะแสดงความไม่พอใจต่อภาษีนำเข้า 32% ที่ถูกเรียกเก็บว่า “ไม่ยุติธรรม” แต่ไต้หวันก็ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการยื่นข้อเสนอต่อสหรัฐ โดยเสนอให้มีระบบภาษีนำเข้าเป็นศูนย์พร้อมทั้งเพิ่มการซื้อและการลงทุนในประเทศมากขึ้น

นายกัว จื้อฮุย รัฐมนตรีเศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเผยวานนี้ว่า "ไต้หวัน" เตรียมเสนอแผนซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มเติม มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า และอาจเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐเป็น 30% เพื่อให้สหรัฐลดการขาดดุลการค้ากับไต้หวันน้อยลง และนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันได้ 

เจรจาการค้าสร้างความสัมพันธ์ 'เศรษฐกิจ'

สำนักงานเจรจาการค้าของไต้หวันได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ไต้หวันได้จัดการประชุมทางวิดีโอร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่ได้มีการเปิดเผยชื่อ 

 

สำหรับการเจรจาครั้งนี้มุ่งเน้นประเด็นเกี่ยวกับภาษีศุลกากรระหว่างไต้หวันและสหรัฐ รวมทั้งอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ตลอดจนประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้าอื่นๆ อีกหลายประการ รวมถึงการควบคุมการส่งออก 

ทั้งนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า "ทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะได้ดำเนินการหารือติดตามผลต่อไปในอนาคตอันใกล้ และร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่แข็งแกร่งและมั่นคงระหว่างไต้หวันและสหรัฐ" 

อ้างอิง Reuters