สหรัฐฯเตรียมไฟเขียวทหารหญิงร่วมรบ

นายลีออน พาเน็ตต้า รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ได้ฝากผลงานทิ้งท้ายก่อนพ้นจากตำแหน่ง ด้วยการยกเลิกนโยบายเมื่อปี 2537 ที่ห้ามทหารหญิงเข้าสังกัดหน่วยรบในแนวหน้า ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้ อาจจะทำให้ตำแหน่งแนวหน้าในสมรภูมิสงครามนับแสนตำแหน่ง มีที่ว่างสำหรับทหารหญิง

นายพาเน็ตต้า และพลเอกมาร์ติน เดมพ์ซีย์ ประธานเสนาธิการทหารร่วม ได้รับการคาดหมายว่าจะประกาศยกเลิกการห้ามผู้หญิงในกองทัพ ไปเข้าสู่สมรภูมิรบ และเป็นการเปลี่ยนแปลงล่าสุดภายในกองทัพ ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่ผลักดันให้ยกเลิกข้อห้ามไม่ให้ทหารที่เป็นเกย์เปิดเผยตัวเอง ขณะเดียวกัน ก็มีการเปิดทางจนถึงปี 2559 เพื่อให้ทักท้วงว่า มีตำแหน่งไหนบ้างที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้หญิง

ด้านวุฒิสมาชิกคาร์ล เลวิน หัวหน้าคณะกรรมาธิการทหารของวุฒิสภา ได้แสดง

ความยินดีต่อเรื่องนี้ และบอกว่า เป็นการสะท้อนถึงปฏิบัติการทางทหารที่แท้จริงของศตวรรษที่ 21 เช่นเดียวกับสหภาพเพื่อเสรีภาพของพลเมืองอเมริกัน ที่เพิ่งยื่นฟ้องเมื่อเดือนพฤศจิกายน เพื่อหาทางบีบให้กระทรวงกลาโหมยุติคำสั่งห้ามผู้หญิงไปแนวหน้า / หลายคนมองว่า เป็นย่างก้าวเพื่อความเท่าเทียม และการยอมรับบทบาทของผู้หญิง ในการปกป้องประเทศชาติ

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มีขึ้นภายในเวลา 1 ปี หลังจากกระทรวงกลาโหม เปิดเผยนโยบายที่จะรับสมัครผู้หญิงเข้าเป็นทหารอีก 14,000 ตำแหน่ง แต่ยังคงห้ามไม่ให้พวกเธอเข้าร่วมในหน่วยรบ ทั้งทหารราบ / หน่วนยานเกราะ หรือหน่วยปฏิบัติการพิเศษอื่น ๆ ที่ยังคงมีหน้าที่สำคัญในการรบในแนวหน้า

เมื่อปีที่แล้ว กระทรวงกลาโหมได้ถูกตั้งคำถามว่า เหตุใดทหารหญิงในอิรักและอัฟกานิสถานที่มีส่วนร่วมในภารกิจเกี่ยวกับรายเอียดด้านความมั่นคง ที่รวมถึงการค้นบ้านเรือนทุกหลัง ถึงยังคงถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมในหน่วยรบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ได้ให้คำตอบว่า ต้องการดูผลงานของพวกเธอในตำแหน่งใหม่ก่อนที่จะเปิดกว้างรับอย่างจริงจังต่อไป

มีทหารหญิงอเมริกัน ไปเสียชีวิตในอิรักและอัฟกานิสถาน เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันมีทหารหญิงราว 280,000 คน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีทหารหญิงประจำการอยู่ในดินแดนสมรภูมิเพียง 12 เปอร์เซ็นต์ของทหารสหรัฐที่ประจำการอยู่ทั้งหมด

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นอกจากจะมีตำแหน่งว่างสำหรับทหารหญิง 230,000 ตำแหน่งแล้ว ยังเป็นการเปิดทางให้พวกเธอเข้าร่วมในชุดปฏิบัติการพิเศษ ที่รวมทั้ง หน่วยเนวี่ ซีล ของกองทัพเรือ และเดลต้า ฟอร์ซ ของกองทัพบกด้วย แต่อาจจะเป็นเรื่องของอนาคต