ชี้กัปตันQZ8501อาจนำเครื่องบินลงจอดบนผิวน้ำแต่คลื่นสูง
ผู้เชี่ยวชาญชี้ กัปตันเที่ยวบิน QZ8501 อาจนำเครื่องบินลงจอดบนผิวน้ำได้สำเร็จ แต่คลื่นสูงทำให้เครื่องบินจม
ในขณะที่ทีมค้นหาและกู้ภัย กำลังเร่งมือในการค้นหากล่องดำของเครื่องบินโดยสารแอร์บัสA320-200 เที่ยวบิน QZ8501 ของสายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย บรรดานักวิเคราะห์ต่างชี้ว่า นักบินอาจจัดการนำเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินบนผิวน้ำได้สำเร็จ แต่อาจเผชิญคลื่นสูงซัดจนเครื่องจมลงใต้น้ำ
เที่ยวบิน QZ8501 ออกเดินทางจากเมืองสุราบายาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ เพื่อไปยังสิงคโปร์ แต่ได้หายไปจากจอเรดาร์ ขณะบินอยู่เหนือทะเลชวาท่ามกลางพายุ และระบบส่งสัญญาณฉุกเฉินเพื่อแจ้งตำแหน่งเครื่องตก หรือ ELT ก็ไม่ทำงานดังที่ควรจะเกิดขึ้น ในกรณีที่เครื่องตกกระแทกพื้นดินหรือจมอยู่ใต้น้ำ
ผู้เชี่ยวชาญ บอกด้วยว่า กัปตันอิริยันโต อดีตนักบินกองทัพอากาศและมากประสบการณ์ น่าจะนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินบนผิวน้ำ เพื่อไม่ให้เครื่องบินได้รับความเสียหาย
นายดูดี้ สุดิไบโอ บรรณาธิการนิตยสารการบิน อังกาซ่า ให้ความเห็นว่า การที่ ELT ที่ควรจะทำงานตอนที่เครื่องตก ไม่ว่าจะบนแผ่นดิน, ทะเลหรือข้างภูเขา กลับไม่ทำงาน อาจเป็นเพราะเครื่องบินไม่ได้ตกกระแทกอย่างรุนแรงในระหว่างลงจอด
เที่ยวบิน QZ8501 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คน กำลังบินอยู่ในระดับความสูง 32,000ฟุต ตอนที่นักบินขอไต่ระดับความสูงเพื่อหลบเลี่ยงพายุ แต่แม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้เบี่ยงออกไปทางซ้าย แต่นักบินก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ไต่ระดับความสูงโดยทันที เนื่องจากมีการสัญจรทางอากาศหนาแน่นในขณะนั้น และหลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินก็หายไปจากจอเรดาร์
นักวิเคราะห์บางคน เชื่อว่า เครื่องบินอยู่ในภาวะ "อาการร่วงหล่น" เนื่องจากสูญเสียความเร็วหรือไม่ก็เชิดหัวเครื่องบินในมุมที่ชันเกินไป และไม่แน่ชัดว่า เหตุใดจึงไม่มีสัญญาณขอความช่วยเหลือ หรือ "เมย์เดย์" ออกมาจากห้องนักบิน
ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องบินตกบางคน ชี้ว่า เครื่องบินอาจเพิ่มความเร็วเทียบเท่าเครื่องบินรบ ก่อนจะร่วงลงไปในทะเลในสภาพเกือบจะเป็นแนวดิ่ง เนื่องจากเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนกระทันถึงขีดสุด จนนักบินไม่สามารถประคองเครื่องบินหรือปกป้องชีวิตผู้โดยสารได้ แต่ปีเตอร์มาร์รอสส์เซกี้ จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ให้ความเห็นว่า เขากลับคิดว่า เครื่องบินน่าจะใช้ความเร็วต่ำ ที่ระดับ 61 น็อต จึงไม่น่าประหลาดใจว่า จุดที่เครื่องตกอยู่ห่างจากพิกัดสุดท้ายที่หายไปจากจอเรดาร์เพียง 10 กิโลเมตร
อดีตผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ให้ความเห็นว่า การที่ทีมกู้ภัยพบ 8 ศพ ในสภาพที่อวัยวะครบถ้วน ได้บ่งชี้ว่า เครื่องบินไม่น่าจะระเบิดกลางอากาศ และไม่น่าจะตกกระแทกผิวน้ำอย่างรุนแรง เพราะหากตกกระแทกแรง ศพคงจะไม่อยู่ในสภาพที่มีความสมบูรณ์ นอกจากนี้ประตูทางออกฉุกเฉินและบันไดสไลด์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนแรกๆ ที่ถูกพบ ได้บ่งชี้ว่า อาจเริ่มขั้นตอนแรกของการอพยพผู้โดยสารคนแรกๆ ออกจากเครื่องทันที ที่เครื่องลงจอดเหนือผิวน้ำ ขณะที่
อดีตรัฐมนตรีขนส่ง จัสมาน ไซอาฟี่ ดีจามาล เชื่อว่า การค้นพบประตูทางออกฉุกเฉินลอยอยู่ย่อมหมายความว่า มีคนเปิดประตูนั้นแล้ว และผู้โดยสารอาจจะรอให้ลูกเรือปลดทุ่นชูชีพออก
จากเครื่องบิน แต่ได้เกิดคลื่นสูงซัดส่วนหัวของเครื่องจนจมลงน้ำเสียก่อน
ตามมาตฐานความปลอดภัยของเที่ยวบิน ผู้โดยสารทุกคนจะต้องได้รับอพยพออกจากเครื่องภายใน 90 วินาที ผู้เชี่ยวชาญของฝรั่งเศสกับสิงคโปร์ ได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซีย เพื่อตามหาซากชิ้นส่วนเครื่องบิน โดยเฉพาะกล่องดำ เพื่อจะได้ทราบรายละเอียดของการสนทนาภายในห้องนักบิน รวมถึงช่วงเวลาสุดท้ายก่อนเครื่องตก