ออสเตรเลียคุมเข้มต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์
ออสเตรเลียประกาศกฎคุมเข้มการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ โดยกำหนดโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี และปรับเงินสูงสุดกว่า 16 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตต์ ของออสเตรเลีย แถลงวันนี้ (2 พ.ค.) ว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการเข้ามากว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศของชาวต่างชาติ จนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับเป็นเงิน 127,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 3.32 ล้านบาทสำหรับผู้ฝ่าฝืนที่เป็นบุคคล และ 637,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 16.61 ล้านบาทสำหรับผู้ฝ่าฝืนที่เป็นนิติบุคคล
นายแอบบอตต์กล่าวว่า ออสเตรเลียยังคงต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติ แต่ต้องเป็นการลงทุนที่ถูกต้องและต้องการทำให้ประชาชนมั่นใจว่าการลงทุนจากต่างชาติเป็นไปเพื่อประโยชน์ของออสเตรเลีย ส่วนบุคคลที่สาม เช่น นายหน้า ที่ช่วยชาวต่างชาติฝ่าฝืนกฎหมาโดยเจตนา จะต้องถูกปรับสูงสุด 42,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 1.11 ล้านบาทสำหรับนายหน้าที่เป็นบุคคล และ 212,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 5.54 ล้านบาทสำหรับนายหน้าที่เป็นบริษัท
ปัจจุบันออสเตรเลียอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อได้เฉพาะที่อยู่อาศัยสร้างใหม่เท่านั้น ห้ามซื้อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่เดิม แต่มีการปฏิบัติตามระเบียบจริงน้อยมาก ชาวต่างชาติที่มีเงินสดจำนวนมากอย่างชาวจีน ถูกโทษว่าทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในออสเตรเลียสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในนครซิดนีย์และนครเมลเบิร์น จนชาวออสเตรเลียเองไม่สามารถซื้อหาเป็นเจ้าของได้
ด้านรัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย นายโจ ฮอกกี เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังสอบสวนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ผิดกฎหมายประมาณ 100 คดี และให้เวลาชาวต่างชาติที่กระทำผิดแสดงตัวภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ทางการจะบังคับให้ขายทรัพย์สินที่ซื้อมาโดยผิดกฎหมายแต่จะไม่ดำเนินคดีทางอาญา