สิงคโปร์แจงปมเสนอสตรีทฟู้ดเป็นมรดกโลก

นายเยียว เกิร์ก เซียง เจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะกรรมการมรดกแห่งชาติสิงคโปร์ ยืนยันหลังประกาศเสนอชื่อของสิงคโปร์ถูกยื่นอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ว่า ความพยายามดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาแสดงให้เห็นว่า อาหารข้างทางของประเทศนี้ดีกว่าของประเทศอื่น ๆ

“มันไม่เกี่ยวกับการที่ประเทศหนึ่งพยายามพิสูจน์ว่าวิถีปฏิบัติทางวัฒนธรรมของตนเองเหนือกว่า มีแค่หนึ่งเดียว หรือมีต้นกำเนิดมาจากตนเอง” นายเยียวแถลง และว่า “การเสนอชื่อคือการพิสูจน์ว่าสังคมภายในประเทศให้คุณค่าวิถีปฏิบัติทางวัฒนธรรมนี้หรือไม่ และดูว่า พวกเขามีเจตนารมณ์ปกปักษ์รักษาวิถีปฏิบัตินี้ภายในประเทศของพวกเขาหรือไม่”

เจ้าหน้าที่ยังหวังด้วยว่า ความพยายามนี้จะกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจอาหารข้างทางเพิ่มมากขึ้น

สิงคโปร์มีถนนขายอาหารกลางแจ้งมากมายซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่เรียกกันว่า “หาบเร่” จะทำอาหารหลายอย่างขาย เช่น ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว และสะเต๊ะในราคาที่ค่อนข้างถูก

เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์ประกาศว่า พวกเขาจะเสนอให้วัฒนธรรมหาบเร่ของตนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และหากประสบความสำเร็จ มันจะอยู่ร่วมรายชื่อกับมรดกวัฒนธรรมอื่น ๆ เช่น อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและเบียร์เยอรมนี

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจในมาเลเซีย ถึงแม้ว่าอาหารข้างทางของมาเลเซียจะเหมือนกับของในสิงคโปร์ แต่ชาวมาเลเซียอ้างว่า ของพวกเขานั้นเหนือกว่าอย่างมาก

ข่าวที่ว่าสิงคโปร์กำลังผลักดันการเสนอชื่อได้ทำให้เกิดความไม่พอใจในมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งระบุว่า “เมื่อสิงคโปร์ตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่มีวัฒนธรรมที่เป็นของตัวเองเลยซักอย่างเดียว พวกเขาจะอ้างเอาของคนอื่น”

สิงคโปร์และมาเลเซียมีความสัมพันธ์ที่ขุ่นมัวนับตั้งแต่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันในช่วงทศวรรษที่ 60 แต่จะตึงเครียดมากจริง ๆ เมื่อเป็นเรื่องของอาหาร ซึ่งเรื่องต้นกำเนิดของเมนูและใครทำได้ดีกว่ากันมักเป็นหัวข้อการถกเถียงอันดุเดือด โดยผลลัพธ์ความพยายามของสิงคโปร์จะออกมาในช่วงปลายปี 2563