โรคหัดระบาดหนัก-ม.ดังในแอลเอกักนศ.เกือบ700คน

โรคหัดระบาดหนักในสหรัฐ เริ่มตั้งแต่ต้นปีนี้ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อจำนวนกว่า 700 คน ถือเป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 ขณะมหาวิทยาลัยชื่อดังสองแห่งในนครลอส แองเจลลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เกือบ 700 คน ยังคงถูกกักบริเวณเพื่อป้องกันการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อโรคหัด

ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (29เม.ย.) ว่า ผู้ติดเชื้อโรคหัดในประเทศอย่างเป็นทางการ อยู่ที่ 704 คน และพบผู้ติดเชื้อใน 22 รัฐ เพิ่มขึ้น 1.3% จาก 695 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  ถือเป็นสถิติสูงที่สุดทั้งที่กระทรวงสาธารณสุขเคยประกาศให้โรคหัดหมดไปจากประเทศเมื่อปี 2543

รัฐที่มีการแพร่ระบาดสูงสุดคือรัฐนิวเจอร์ซีย์ และรัฐนิวยอร์ก ที่ตั้งของนครนิวยอร์ก เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐ และเขตที่ระบาดหนักที่สุดคือเขตบรูคลิน 

ขณะที่โฆษกมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สเตท ในนครลอส แองเจลลิส กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ 106 คน และนักศึกษา 550 คนอยู่แต่ในเขตที่พักอาศัย และหลีกเลี่ยงการสัมผัสติดต่อกับผู้อื่น เช่นเดียวกับยูนิเวอร์ซิตี ออฟ แคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตลอส แองเจลลิส สั่งกักบริเวณนักศึกษาและเจ้าหน้าที่รวม 30 คนเช่นกัน