จีน-สหรัฐเปิดศึกแผ่อิทธิพลในอาร์กติก

นายเกิ้ง ฉวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงวานนี้ (7 พ.ค.) ว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐบิดเบือนข้อเท็จจริงเพราะมีเจตนาแอบแฝง “จีนไม่เคยคิดเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ หรือพยายามตั้งกลุ่มขึ้นมาเป็นพิเศษ”

ถ้อยแถลงดังกล่าวตอบโต้นายปอมเปโอ ที่แสดงความเห็นต่อสมาชิก 8 ประเทศในการประชุมสภาอาร์กติกที่ฟินแลนด์ เมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) ว่า สหรัฐมีแผนขยายอิทธิพลในขั้วโลกเหนือ เพื่อคานอำนาจรัสเซียและจีน

“ขั้วโลกเหนือกำลังกลายเป็นดินแดนแห่งการแข่งขันระหว่างประเทศมหาอำนาจของโลก” นายปอมเปโอระบุ ถ้อยแถลงของเขามีขึ้นหลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่า จีนกำลังขยายอิทธิพลทางทหารเข้าไปในแถบนั้น

นอกจากนี้ นายปอมเปโอยังเตือนให้ชาติต่างๆ ระวังว่าอาจจะติดกับดักหนี้และการทุจริต ผลพวงจากการลงทุนคุณภาพต่ำ การเพิ่มกำลังทหาร และแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติโดยปราศจากการควบคุม ทั้งหมดนี้เป็นผลกระทบจากการปล่อยให้จีนเพิ่มอิทธิพลขึ้นมาก

นายเกิ้ง ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า จีนเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจการของอาร์กติกด้วยทัศนะคติที่เปิดเผย ให้ความร่วมมือแบบที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ โดยจีนจะไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของชาติอาร์กติกใดๆ ทั้งสิ้น แต่ก็จะไม่วางมือจากประเด็นปัญหาโลกที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ด้วย

สหรัฐและรัสเซียเป็นสมาชิกสภาอาร์กติก แต่จีนเป็นผู้สังเกตการณ์ และรัฐบาลวอชิงตันก็จับตาความพยายามของรัฐบาลปักกิ่งที่เรียกตัวเองว่า เป็นรัฐใกล้อาร์กติก

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนให้เหตุผลว่า ปัญหาในอาร์กติกไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศแถบนี้เท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญระดับโลกและเป็นเรื่องของอิทธิพลระหว่างประเทศ จีนกำลังร่วมมือกับประเทศทั้งหลายปกป้อง ใช้ประโยชน์ และมีส่วนร่วมสร้างธรรมาภิบาลในอาร์กติก

นายปอมเปโอให้ตัวเลขว่า ปักกิ่งเข้ามาลงทุนในอาร์กติกอย่างมหาศาล ระหว่างปี 2555-2560 คิดเป็นมูลค่าเกือบ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยตั้งใจแสวงหาประโยชน์อย่างเต็มที่จากเส้นทางทะเลเหนือที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับจีน

ผลพวงจากภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งละลาย จึงเปิดเส้นทางเดินเรือในทะเลเหนือให้เดินทางผ่านตอนเหนือของรัสเซียได้ ช่วยลดระยะเวลาเดินเรือจากมหาสมุทรแปซิฟิกและแอตแลนติกลงมาก