ไซโคลนเล็งถล่มสหรัฐ หนุนราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่ง4.5%

ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นเอชซี) ประกาศว่า พายุไซโคลนเตรียมถล่มอ่าวเม็กซิในช่วงสุปดาห์นี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคแห่งนี้

เอ็นเอชซี คาดการณ์ว่า พายุไซโคลนจะก่อตัวในอ่าวเม็กซิโกในวันนี้ (11 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐ และคาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทน้ำมันหลายแห่งเริ่มอพยพและยุติการผลิตน้ำมันในภูมิภาค หลังจากการพยากรณ์อากาศ

ด้าน สำนักงานบังคับด้านความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐ ระบุว่า ณ ในช่วงเช้าวานนี้ ตามเวลาสหรัฐ มีการยุติการผลิตน้ำมันไปแล้วประมาณ 32% และก๊าซธรรมชาติ 17% ในอ่าวเม็กซิโก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้า

ข้อมูลเชิงสถิติระบุว่า อ่าวเม็กซิโกมีสัดส่วนการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอยู่ที่ 17% และก๊าซธรรมชาติ 5% 

ทั้งนี้ การประกาศเตือนเกี่ยวกับพายุไซโคลนที่เตรียมถล่มอ่าวเม็กซิโก เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2.60 ดอลลาร์ หรือ 4.5% แตะที่ระดับ 60.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้