มหาเศรษฐีฮ่องกงแนะใช้ 'ความรัก' แก้ปัญหาประเทศ
"ลี กา-ชิง" มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง เรียกร้องให้ประชาชนรักตนเอง รักประเทศ และรักจีน หวังแก้ไขความรุนแรงจากเหตุการณ์ประท้วงเพื่อประชาธิปไตย พร้อมกับชี้ว่า ตำรวจใช้อาวุธจัดการผู้ประท้วง อาจนำไปสู่ผลลัพธ์เลวร้าย
นายลี กา-ชิง มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยสุดที่สุดของฮ่องกง วัย 91 ปี เรียกร้องประชาชนให้รักตนเอง รักประเทศ และรักจีน นับการแสดงความคิดเห็นของเขาต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากการท้าทายอำนาจจีน ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศต้องหยุดชะงักเป็นเวลาหลายสัปดาห์
ข้อความของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงรายนี้ ปรากฏเป็นโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์หลักของประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งเอเชีย ที่ระบุการเรียกร้องประชาชนให้ยุติความโกรธแค้นด้วยความรัก และใช้ความรักหยุดความรุนแรง
เมื่อ 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมประท้วง ทำให้ฮ่องกงอยู่ในวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายสุด นับตั้งแต่อังกฤษได้ส่งคืนฮ่องกงให้กับจีนในปี 2540 และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นการท้าทายอำนาจครั้งใหญ่ที่สุดของผู้ประท้วงชาวฮ่องกงต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่ขึ้นมาเป็นผู้นำจีนตั้งแต่ปี 2555
สำหรับประเทศจีน มองเหตุการณ์ความรุนแรงจากกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้ เปรียบเทียบได้รับกับการก่อการร้าย และออกโรงเตือนว่า อาจใช้กำลังในการปราบปราม
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี พบกับผู้ประท้วงชาวฮ่องกง เพื่อลดแรงเสียดทาน และความตึงเครียดลง
อย่างไรก็ตาม นายลี ชี้ว่า วิธีการที่ตำรวจใช้กำลังจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วงหัวแข็ง อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็ได้
มีรายงานว่า ขณะนี้ มีผู้ประท้วงกว่า 700 คนถูกจับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2562 ได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กับจีน และยกระดับเป้าหมายการชุมนุมไปสู่การเรียกร้องประชาธิปไตยจากจีนแผ่นดินใหญ่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง