ประชาคมโลกประณามสหรัฐออกกม.แทรกแซงฮ่องกง

ประชาคมโลกมองว่า การที่สภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับฮ่องกงซึ่งเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างเปิดเผยนั้น แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทางการเมืองของบุคคลในรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการจะทำให้จีนอ่อนแอลง

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงปี 2562 ซึ่งเมื่อมีการบังคับใช้เป็นกฎหมาย ก็จะกำหนดให้มีการตรวจสอบประจำปีเพื่อประเมินว่า ฮ่องกงมีเอกราชในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอหรือไม่

ซูราบห์ กุปตา เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบันศึกษาจีน-สหรัฐประจำกรุงวอชิงตันกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังส่งสัญญาณที่ผิดพลาดในการรับประกันและการสนับสนุนผู้ประท้วงที่มีความรุนแรงในฮ่องกง

“เกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย” นายกุปตากล่าวและว่า "ปัญหาที่แท้จริงคือความตั้งใจที่ซ่อนเร้นในสหรัฐ: อันดับแรกคือการสร้างปัญหา และหลังจากนั้นก็กระพือเปลวไฟแห่งการประท้วงโดยเติมออกซิเจนให้กับองค์ประกอบทางการเมืองและความรุนแรงภายในขบวนการประท้วง” 

ด้านวิลเลียม โจนส์ หัวหน้าสำนักข่าวเอ็กเซคคิวทิฟ อินเทลลิเจนซ์ รีวิว ในกรุงวอชิงตัน ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวของสภาคองเกรสสหรัฐเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างชัดเจน

“นักเคลื่อนไหวหลายคนจะได้รับการผลักดันด้วยการสนับสนุนดังกล่าว แต่ถ้าพวกเขายังคงประท้วงต่อไปด้วยการทำลายล้างอย่างป่าเถื่อน ผมคิดว่าความคิดเห็นในฮ่องกงจะเปลี่ยนเป็นการต่อต้านพวกเขา” นายโจนส์กล่าว

“ร่างกฎหมายของสหรัฐเป็นร่างกฎหมายที่มีอคติอย่างมากต่อจีนและรัฐบาลในฮ่องกง” นายริชาร์ด เบกเคอร์ ผู้ประสานงานชายฝั่งตะวันตกของกลุ่มสิทธิมนุษยชนในสหรัฐกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ในการประชุมเรื่อง “บทบาทของสหรัฐในฮ่องกง: เบื้องหลังข่าว” ที่จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย

“กฎหมายนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เป็นเป้าหมาย แต่เป็นไปตามเจตนารมณ์ทางการเมืองของบุคคลที่อยู่ในสภาคองเกรส และทำเนียบขาว” เบกเคอร์กล่าวและว่า “การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงจะต้องถูกมองว่า เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการทำให้จีนอ่อนแอลง และถึงขั้นทำให้จีนแตกสลาย”

นายเอ็ดวาโด เรกาลาโด นักวิจัยของศูนย์นโยบายระหว่างประเทศของคิวบา กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวคือ “การแทรกแซงอย่างชัดเจน และเป็นการไม่เคารพต่อกฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”

“สหรัฐมี 2 มาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน และวิพากษ์วิจารณ์เฉพาะสิ่งที่สะดวกสบายสำหรับสหรัฐ” นายเรกาลาโดกล่าวโดยเสริมว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของสหรัฐในการยับยั้งการพัฒนาของจีน

ขณะที่อาห์เหม็ด กูซัว บาลา อดีตกงสุลของไนจีเรียประจำฮ่องกงเล่าถึงประสบการณ์ที่น่าจดจำในฮ่องกงระหว่างที่เขาปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่นั่น พร้อมทั้งบอกว่า รู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่า “สถานที่สวยงาม” ที่ซึ่งเขาชอบทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เข้าสู่ “สถานการณ์ที่เลวร้าย” ได้ไม่นาน หลังจากที่การปฏิบัติหน้าที่ของเขาสิ้นสุดลง โดยตั้งข้อสังเกตว่า คนฮ่องกงมักดำเนินธุรกิจของตนเองอย่างสงบสุข

บาลา กล่าวด้วยว่า ทุกประเทศ รวมถึงจีนสมควรที่จะปกป้องอำนาจอธิปไตยของตนเอง และเน้นย้ำว่า จีนมีทุกอย่างที่จำเป็นในการยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในฮ่องกง

"หากรัฐบาลหรือสื่อต่างประเทศบางแห่งกำลังเลือกข้าง ผมคิดว่ามันค่อนข้างโชคร้าย" เนื่องจากการแทรกแซงจากต่างประเทศในเรื่องนี้ อาจทำให้กระบวนการสันติภาพล่าช้าลง" เขากล่าวเสริม