‘สถานทูตสหรัฐ’ เตือน ‘อเมริกัน’ หลังกลับลำนโยบายเวสต์แบงก์
สถานทูตสหรัฐ เตือนชาวอเมริกันใช้ความระมัดระวังขณะอยู่ในเยรูซาเล็ม หลังสหรัฐกลับลำนโยบายเวสต์แบงก์
สถานทูตสหรัฐ ประจำกรุงเยรูซาเล็มประเทศอิสราเอลได้ออกแถลงการณ์เตือนชาวอเมริกันให้ใช้ความระมัดระวัง หากต้องเดินทางหรือใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มพื้นที่เขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซา
“สถานทูตสหรัฐขอแนะนำให้ชาวอเมริกันที่อาศัยหรือมีแผนจะเดินทางผ่านกรุงเยรูซาเล็มเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซาให้ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูงและเพิ่มความตระหนักในเรื่องของความปลอดภัย ภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน” แถลงการณ์ระบุว่า
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐออกมาประกาศเตรียมยกเลิกจุดยืนที่ว่า การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์นั้นขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เอื้อต่ออิสราเอลแต่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกับชาวปาเลสไตน์
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า แถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐในเรื่องการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์นั้น ขัดแย้งกันมาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว โดยรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสนับสนุนมุมมองเมื่อปี 2524 ของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน
หลังการประกาศดังกล่าว นายอัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศของจอร์แดน ก็ได้ออกมาเตือนสหรัฐว่าความเคลื่อนไหวเช่นนี้ จะทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อสันติภาพในตะวันออกกลาง
นายซาฟาดีระบุในทวิตเตอร์ว่า การตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในดินแดนแห่งนั้นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และจะทำลายโอกาสของแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐที่มุ่งให้ปาเลสสไตน์และอิสราเอลยืนหยัดขึ้นเคียงข้างกัน ซึ่งเป็นวิธีการเดียวในตอนนี้ที่จะยุติความขัดแย้งที่กินเวลานานมาหลายทศวรรษได้