"เฟด" มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
รายงานประชุมเฟดเดือน ต.ค. ชี้ กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเห็นพ้องร่วมกันว่า ความไม่แน่นอนต่างๆที่เป็นผลมาจากความตึงเครียดด้านการค้าและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์นั้น เริ่มลดน้อยลงในระดับหนึ่ง
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ต.ค.เมื่อวันพุธ(20พ.ย.) โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และยังมองว่า ความไม่แน่นอนต่างๆที่เป็นผลมาจากความตึงเครียดด้านการค้าและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์นั้น เริ่มลดน้อยลงในระดับหนึ่ง
รายงานการประชุม ระบุว่า กรรมการเฟดมีมุมมองที่สอดคล้องกันว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรับมือกับอุปสรรคในอนาคต ขณะเดียวกันก็ได้มีการหารือเกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆที่ควรเตรียมไว้หากเศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยในวันข้างหน้า
กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า การเข้าซื้อพันธบัตร และการส่งสัญญาณให้ตลาดรับรู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายในอนาคตนั้น จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ดี กรรมการเฟดทุกคนไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนถึงระดับติดลบ เหมือนกับที่ธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นดำเนินการอยู่ในเวลานี้
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดมีมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 2 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% - 1.75% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ โดยมติการประชุมครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ เนื่องจากนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน และนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ ออกเสียงสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับ 1.75% - 2.00%
แถลงการณ์การประชุมเฟดระบุด้วยว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง ซึ่งเฟดจะจับตาสิ่งบ่งชี้จากข้อมูลที่เฟดได้รับ เพื่อมองหาสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจ และเฟดจะประเมินแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการกำหนดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์จากการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดได้ถอดประโยคสำคัญออก ซึ่งระบุว่า “เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” โดยประโยคดังกล่าวได้ปรากฎในแถลงการณ์เฟดนับตั้งแต่การประชุมในเดือนมิ.ย. ขณะที่ตลาดการเงินมองว่า ท่าทีดังกล่าวของเฟดอาจเป็นการส่งสัญญาณพักวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้