เอกฉันท์! สภาอิรักลงมติขับไล่กองทัพสหรัฐ
สมาชิกรัฐสภาอิรักลงมติเป็นเอกฉันท์ ผ่านร่างกฎหมายขับไล่กองทัพสหรัฐออกจากประเทศ หลังเหตุการณ์สังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่านในกรุงแบกแดด
บรรดาสมาชิกรัฐสภาอิรักทั้ง 170 เสียงลงมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมวิสามัญวันนี้ (5 ม.ค.) เห็นชอบร่างกฎหมายที่กำหนดให้รัฐบาลสหรัฐถอนกองทัพของตนออกจากอิรัก โดยอ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 59 และ 109 และเป็นความรับผิดชอบของสมาชิกสภาในฐานะผู้แทน เพื่อปกป้องความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวประกอบด้วยข้อกำหนด 4 ข้อดังนี้
ข้อแรก รัฐบาลกลางในกรุงแบกแดดต้องยกเลิกคำขอร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อต่อสู้กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) ภาคพื้นดิน โดยปัจจุบันปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้วหลังสามารถกำราบกลุ่มไอเอสได้ รัฐบาลจึงควรเลิกอนุญาตให้กองกำลังต่างชาติประจำการในประเทศและป้องกันไม่ให้ต่างชาติใช้น่านฟ้าของอิรักอีกต่อไป
ข้อสอง รัฐบาลและผู้บัญชาการกองทัพต้องประกาศจำนวนครูฝึกชาวต่างชาติที่ต้องการ รวมถึงสถานที่ฝึก หน้าที่ความรับผิดชอบของครูฝึก และระยะเวลาของสัญญาจ้าง ให้ชัดเจน
ข้อสาม รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะตัวแทนรัฐบาล ต้องยื่นร้องเรียนต่อสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ว่าสหรัฐละเมิดอธิปไตยและความมั่นคงของอิรัก
ข้อสุดท้าย แผนการนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว
การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวของรัฐสภาอิรักมีขึ้นไม่กี่วัน หลังรัฐบาลสหรัฐใช้โดรนสังหารนายพลกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่านที่สนามบินนานาชาติแบกแดดเมื่อเช้าวันศุกร์ (3 ม.ค.)
ล่าสุด กระทรวงต่างประเทศอิรัก ระบุว่า ได้ยื่นหนังสือ 2 ฉบับถึงยูเอ็นและยูเอ็นเอสซี เรียกร้องให้มีการประณามสหรัฐกรณีลอบสังหารนายพลโซไลมานีแล้ว
ปัจจุบัน สหรัฐมีทหารประจำการตามฐานทัพต่าง ๆ ทั่วอิรักอยู่ราว 5,200 นาย หลังจากรัฐบาลอิรักเชิญให้มาช่วยสนับสนุนกองกำลังท้องถิ่นเพื่อสู้รบกับกลุ่มไอเอสเมื่อปี 2557