เปิดแผนปฏิบัติการรับ 'คนไทยกลับจากจีน'
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดแผนปฏิบัติการรับคนไทยกลับจากจีน เผยลงทะเบียนขอกลับ 135 คน แนะวิธีปฏิบัติตัวห้ามเป็นไข้หวัด และเอกสารเดินทางต้องพร้อม ย้ำเครื่องบินไปรับต้องได้ไฟเขียวจากจีน
นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางรายการเคลียร์คัดชัดเจน ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมและประสานช่วยเหลือนำคนไทยในเมืองอู่ฮั่นกลับประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าในประเทศจีนว่า ปัจจุบันมีคนไทยในจีนประมาณ 5,030 คน กระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ในจำนวนนี้ มีคนไทยในมณฑลหูเป่ย์ 161 คน เฉพาะในเมืองอู่ฮั่น 106 คน ซึ่งทางการกำลังเตรียมนำเครื่องบินไปรับกลับไทยโดยเร็วที่สุด
“เข้าใจว่าทุกคนอยากกลับบ้าน รัฐบาลไทยและส่วนราชการไทยก็อยากทำให้เร็ว อยากให้คนไทยกลับมาให้เร็วและเข้าใจความรู้สึก แต่ขณะเดียวกันต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่เคร่งครัด ซึ่งถือเป็นเรื่องของประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนใดคนหนึ่งหรือของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นภัยพิบัติเรื่องโรคระบาดทั่วโลก ดังนั้นขั้นตอนของจีนจึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ อยากไปเร็ว แต่ก็ต้องเห็นใจจีนที่ต้องสกัดปัญหา ขณะเดียวกันทางการจีนก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของคนไทยเช่นเดียวกัน”นายชาตรีกล่าว
คนไทยลงทะเบียนกลับประเทศ 135 คน
เมื่อถามถึงความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐในการช่วยเหลือคนไทย นายชาตรีกล่าวว่า ยืนยันความพร้อมของรัฐบาลไทยในการช่วยเหลือคนไทย และเข้าใจว่าคนไทยที่นั่นประสงค์จะเดินทางกลับบ้าน ขณะนี้ได้มีคนไทยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย 135 คน ซึ่งจะต้องดูแลรักษาสุขภาพ เตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อม โดยแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมในกลุ่มวีแชท และให้ข้อแนะนำต่างๆ ตนมั่นใจในการซักซ้อมในการประชุมกับทีมของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อเช้าวันนี้ และต้องชื่นชมทุกฝ่าย โดยขณะนี้มีการระบุตัวผู้ที่จะเดินทางไป รวมทั้งได้มีการประสานงานกับจีนในทุกระดับ และวางแผนงานต้องมีการหารือร่วมกัน
เห็นใจจีนทุ่มเทสรรพกำลังรักษาผู้ป่วยโคโรน่า - ดูแลชาวต่างชาติในอู่ฮั่น
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมรัฐบาลจีนจึงยังไม่อนุญาตให้คนไทยกลับประเทศ นายชาตรีกล่าวว่า ต้องเข้าใจประเทศจีน ขณะนี้เขาได้ทุ่มเททรัพยากรไปกับการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลคนต่างชาติ ฝ่ายไทยต้องให้อำนาจการตัดสินใจกับจีน ขอย้ำว่าในส่วนไทยมีความพร้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ซักซ้อม มีแผนดำเนินการอยู่แล้ว และพร้อมปฏิบัติเมื่อได้ไฟเขียวทันที ขณะเดียวกันเชื่อมั่นในรัฐบาลจีนว่า สิ่งที่เขาทำถือเป็นไปตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับการดูแลตามหลักขององค์การอนามัยโลก นครอู่ฮั่นเป็นเมืองที่มีประชาชนรวมถึงชาวต่างชาติจำนวนมาก จีนต้องทุ่มเทสรรพกำลังไปดูแลทุกส่วนงาน ในสภาวการณ์เช่นนั้นต้องถือว่าจีนทำได้ดี
ยอมรับคนไทยในจีนไม่สะดวกสบายเหมือนปกติ
เมื่อถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยที่นั้น นายชาตรีกล่าวว่า ไม่สะดวกสบายเหมือนตอนปกติแต่สามารถยังชีพได้ ซึ่งขณะนี้ทางการจีนใช้มาตรการเข้มงวด ทั้งคนและรถยนต์ถูกจำกัดพื้นที่ โดยระหว่างที่รอเครื่องบินไปรับกลับ ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่งได้ประสานพูดคุยกับคนไทยในอู่ฮั่นผ่านวีแชท หากใครขาดเหลืออะไรก็ให้แจ้งเข้ามา ทางสถานทูตจะจัดส่งสิ่งของไปให้โดยด่วน
แนะคนไทยเตรียมตัวให้พร้อมก่อนรับกลับประเทศ
เมื่อถามถึงคนไทยต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนพากลับประเทศ นายชาตรีกล่าวว่า อย่างแรกต้องเตรียมหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้พร้อม เพราะไม่มีจีนก็ไม่ให้กลับ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ไม่เป็นหวัดหรือมีอุณหภูมิร่างกายเกินกว่า 37 องศาเซลเซียส ซึ่งขากลับประเทศ เจ้าหน้าที่ไทยที่เดินทางไปที่นั้นก็ต้องผ่านการตรวจสุขภาพแบบเดียวกัน โดยจะต้องผ่านการคัดกรองสุขภาพ 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้น1 ตรวจสุขภาพโดยจีนก่อนออกจากเมืองอู่ฮั่น ขั้น2 คัดกรองสุขภาพที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่สนามบิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ไทยจะจัดที่นั่งตามความเสี่ยงด้านสุขภาพของแต่ละคน และขั้น3 เมื่อถึงไทย จะได้รับการตรวจสุขภาพอีกครั้งที่ ตม. และจำกัดพื้นที่เฝ้าดูอาการอีก 6 ชั่วโมง หากไม่พบอาการไข้ จะปล่อยให้กลับบ้านและเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
นายชาตรีกล่าวด้วยว่า ในยามที่ประเทศจีนอยู่ในภาวะยากลำบาก เป็นช่วงเวลาที่ต้องเห็นอกเห็นใจกัน ซึ่งรัฐบาลไทยได้ตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของใช้จำเป็นและเวชภัณฑ์เช่น เจลล้างมือ ยาฆ่าเชื้อ และหน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนจีน เพื่อส่งความปรารถนาดีต่อความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน