‘ไวรัสโคโรน่า’ สูบรายได้ท่องเที่ยวโลก 2.5 ล้านล้านบาท
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจชื่อดังคาด โรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะสร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยวโลกราว 80,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 2.5 ล้านล้านบาท และอาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปีถึงจะฟื้น ขณะที่อาเซียนอ่วมหนักที่สุด
“อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต” (อีไอยู) หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ของอังกฤษคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลกจะได้รับผลกระทบราว 80,000ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.49 ล้านล้านบาท) เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนหลายล้านคนแห่ยกเลิกแผนการเดินทาง หรือชะลอการพักร้อนในอนาคตอันใกล้ออกไปก่อน เพราะวิตกเรื่องความปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19
ขณะนี้ บรรดาบริษัทจองการเดินทางออนไลน์อย่าง “เอ็กซ์พีเดีย” และ “ทริปแอดไวเซอร์” ต่างคาดไว้แล้วว่าจะมีรายได้ลดลง
ทั้งนี้ อีไอยู ประมาณการว่า การท่องเที่ยวในต่างประเทศของจีนจะกลับไปสู่ระดับก่อนไวรัสโควิด-19 ระบาดต้องรอจนถึงไตรมาส 2 ของปีหน้า โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน เนื่องอยู่ใน 20 อันดับจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน
คาดว่าอาเซียนจะสูญเสียรายได้ประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 218,300 ล้านบาท) หรือเกือบ 1 ใน 10 ของความเสียหายของการท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะยอดนักท่องเที่ยวชาวจีนหายไป 30-40%
ขณะที่ยุโรปและสหรัฐ ได้รับผลกระทบน้อยเพราะชาวจีนครองสัดส่วนนักท่องเที่ยวเพียง 4% เท่านั้น
“ฟอร์เวิร์ดคีย์ส” บริษัทข้อมูลและแนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเผยว่า นับจนถึงวันที่ 26 ม.ค. ยอดจองเที่ยวบินออกจากจีนไปต่างประเทศช่วงวันที่ 21 ม.ค. ถึง 17 ก.พ. ลดลง 13.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ยอดจองเดือนมีนาคมและเมษายนหายไปกว่าครึ่ง
ปกติแล้ว ชาวจีนมักเดินทางกันอย่างคึกคักช่วงหลังตรุษจีน แต่ตอนนี้ไม่มีการวางแผนเดินทางแต่อย่างใด ถือเป็นปัญหาหนักที่สุดของอุตสาหกรรมนี้
นายคริส นาสเซ็ตตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เครือโรงแรมฮิลตันคาดว่า ธุรกิจโรงแรมจะได้รับผลกระทบนาน 6-12 เดือน และสูญเสียรายได้ระหว่าง 25-50 ล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ ฮิลตันปิดให้บริการโรงแรมของตนในจีนไปแล้ว 150 แห่ง