งานวิจัยชี้‘โควิด-19’อาจทำเลือดแข็งตัวเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
งานวิจัยชี้‘โควิด-19’อาจทำเลือดแข็งตัวเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โดยยังต้องค้นคว้าต่อไปถึงความเชื่อมโยงระหว่างภาวะหลอดเลือดสมองขนาดใหญ่ตีบตันและโรคโควิด-19 ที่เกิดในผู้ป่วยอายุน้อย
งานวิจัยล่าสุดที่ชาวออสเตรเลียมีส่วนร่วม ระบุว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อระบบเลือดของผู้ป่วย และก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ในผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มีอายุ 30 ถึง 40 กว่าปี
นายแพทย์โธมัส ออกซ์เลย์ ชาวออสเตรเลีย หัวหน้าแผนกอภิบาลผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลเมาท์ ไซนาย ในนครนิวยอร์ก เปิดเผยวันนี้ว่า ผู้ป่วยหลายรายมีอาการแทรกซ้อนทางสมองจากโรคโควิด-19 และพบว่าผู้ป่วยที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลเมาท์ไซนายมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น สิ่งที่พบอีกอย่างคือโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือดในร่างกายเพิ่มขึ้น
ออกซ์เลย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอายุมากก็มีโรคหลอดเลือดสมองเช่นกัน แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยอายุน้อยเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นมาก
สำนักข่าวเอบีซี รายงานข้อมูลจากงานวิจัยที่กำลังจะเผยแพร่ของออกซ์เลย์และเพื่อนร่วมงาน ว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลพบผู้ป่วยที่เกิดกรณีดังกล่าว 5 รายในบรรดาผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี แต่ยังต้องค้นคว้ากันต่อไปถึงความเชื่อมโยงระหว่างภาวะหลอดเลือดสมองขนาดใหญ่ตีบตันและโรคโควิด-19 ที่เกิดในผู้ป่วยอายุน้อย