ยามาลาเรียต้านโควิด-19 ปมขัดแย้ง 'ทรัมป์-หมอ'

เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แนะนำให้ใช้ยารักษาโรคมาลาเรีย มาใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ก็ได้ถูกสกัดกั้นจากบรรดานายแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงสาธารณสุขที่บอกว่า แทนที่จะหาย อาจทำให้เสียชีวิตด้วยซ้ำ!

ขณะที่หลายบริษัทในหลายประเทศกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนออกมาให้ทันกับความต้องการในช่วงที่ไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดหนักนั้น มีความพยายามของผู้นำยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่โน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย มาใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยบอกว่าให้ผลในการรักษาดี ทำให้ผู้ป่วยหายจากโรค

แต่ความพยายามของทรัมป์ ถูกสกัดกั้นจากบรรดานายแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงสาธารณสุข ที่มีข้อมูลในมือเป็นหลักฐานสนับสนุนว่ายารักษาโรคมาลาเรียไม่สามารถรักษาโรคโควิด-19ได้ตามที่ผู้นำสหรัฐกล่าวอ้าง ในทางตรงกันข้าม กลับทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักเสียชีวิตด้วยซ้ำ

โดยการศึกษาวิจัยชิ้นใหญ่ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (21 เม.ย.) มีข้อสรุปว่า ยานี้ไม่ได้ให้ประโยชน์ใดๆ เมื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกของสหรัฐหลายๆ แห่ง ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตในกลุ่มซึ่งใช้ยานี้ มีสูงกว่าในการบำบัดรักษาแบบมาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม ปมขัดแย้งในเรื่องนี้ ส่งผลให้ผู้อำนวยการหน่วยงานพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาของสหรัฐ ถูกปลดจากตำแหน่งเพราะคัดค้าน ทรัมป์ ที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ใช้ยามาลาเรียพร้อมทั้งเตรียมขอให้ผู้ตรวจการสอบสวนคณะบริหารที่ให้ความสำคัญกับการเมืองและพวกพ้องมากกว่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เพราะจะทำให้ชีวิตประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง และบ่อนทำลายความพยายามในการรับมือกับวิกฤตสาธารณสุข

นายแพทย์ริค ไบรท์ เปิดเผยว่า ถูกปลดจากตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยงานวิจัยและพัฒนาชีวการแพทย์ชั้นสูง(บาร์ดา) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่ทำหน้าที่พัฒนาและจัดหาการรักษาและวัคซีน โดยถูกย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่มีความสำคัญน้อยลงในสถาบันสุขภาพแห่งชาติ

หมอไบรท์ ให้ความเห็นว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็นผลจากการที่เขายืนกรานว่า รัฐบาลควรนำงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐสภาเพื่อรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ไปลงทุนกับโซลูชันที่ปลอดภัยและผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว ไม่ใช่ยา วัคซีน และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ

"คำสั่งนี้เป็นการตอบโต้โดยตรงต่อผมที่คัดค้านคำแนะนำผิดๆของคณะบริหารที่ระบุว่า ยารักษามาลาเรียอย่างคลอโรควินและไฮดร็อกซีคลอโรควินเป็นยาครอบจักรวาลที่สามารถใช้รักษาโควิด-19 ได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อมูลยืนยัน" หมอไบรท์ กล่าว

ประธานาธิบดีทรัมป์ สนับสนุนให้ใช้ยารักษาโรคมาลาเรียรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 มาตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. โดยไม่มีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพมาสนับสนุน และแม้ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์แนะนำว่า ต้องศึกษาเพิ่มเติม แต่ทรัมป์ยังพยายามผลักดันให้ใช้ยาดังกล่าวโดยอ้างว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้าในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ จนกระทั่งมีการเปิดเผยผลการศึกษาชิ้นใหญ่เกี่ยวกับยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ยาตัวนี้ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโควิด-19ทั้งยัง อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นด้วย

หมอไบรท์ บอกว่าจะขอให้ผู้ตรวจการของกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ สอบสวนคณะบริหารของทรัมป์ที่นำเรื่องยามาเป็นประเด็นทางการเมือง และกดดันให้นักวิจัยสนับสนุนบริษัทที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมือง

ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า หมอไบรท์ ได้ว่าจ้างสำนักงานแคตซ์, มาร์แชลล์ แอนด์ แบงส์ ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมายชื่อดังในสหรัฐเป็นตัวแทนทางกฎหมายสู้ในคดีนี้

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ยังลบคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาอาการป่วยโรคโควิด-19ด้วยยาไฮดรอกซีคลอโรควิน และยาคลอโรควินหลังจากไม่กี่วันก่อนหน้านี้ พร้อมเผยแพร่คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาทั้ง 2 ชนิดเพื่อรักษาอาการโควิด-19 โดยอิงจากข้อมูลจากประสบการณ์ของแพทย์บางกลุ่ม ทั้งที่ยาทั้ง2ตัว ยังไม่ได้รับการตรวจสอบรับรองทางวิทยาศาสตร์