เร่งตรวจไนท์คลับ ‘อิแทวอน’ คลัสเตอร์ใหม่แพร่โควิด-19 กลางกรุงโซล

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) เผยว่า ประชาชนอย่างน้อย 15 คนที่เป็นผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วเกี่ยวข้องกับไนท์คลับในย่านอิแทวอนของกรุงโซล ที่ชาวเกาหลีและต่างชาตินิยมไปเที่ยว ขณะนี้ทางการกำลังเร่งสอบสวนโรค

นายจอง อึนคยอง ผู้อำนวยการเคซีดีซีเผยว่า สถานที่เหล่านี้อยู่ในสภาพอันตรายที่เคซีดีซีกังวลมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผู้คนแออัดและการระบายอากาศ

“เราคิดว่าจำเป็นต้องจัดการสถานที่เหล่านี้ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และขอให้ประชาชนงดเว้นการไปเที่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ผอ.เคซีดีซีกล่าว

 ขณะนี้ทางการกรุงโซลมีบัญชีรายชื่อประชาชนราว 1,500 คนที่เคยไปเที่ยวคลับแถวนั้น ส่วนในเมืองอื่นที่ผู้ป่วยโควิด-19 ใช้ชีวิตหรือไปเยือนก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วเพิ่มมากขึ้น ทางการจึงขอให้ทุกคนที่เคยไปเที่ยวคลับในย่านอิแทวอนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากักตัวเอง 14 วัน แล้วไปตรวจหาเชื้อ

ทั้งนี้ ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแค่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากต่างประเทศ การติดเชื้อในไนท์คลับแม้ยังจำกัดแต่ก็คาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้น ทั้งยังเกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้ผ่อนคลายระเบียบรักษาระยะห่างทางสังคมแล้ว 

นอกจากนี้การติดเชื้อในคลัสเตอร์ไนท์คลับยังก่อให้เกิดการถกเถียงกันเรื่องผลข้างเคียงของการรุกตรวจหาเชื้อและเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยบางคนต่อสาธารณะที่เกาหลีใต้ทำ เนื่องจากสื่อท้องถิ่นหลายสำนักระบุว่า ไนท์คลับย่านนี้เป็นคลับเกย์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเบียดขับและเลือกปฏิบัติต่อเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล บุคคลข้ามเพศและกลุ่มรักไร้กฎเกณฑ์ (เควียร์) ที่รวมเรียกว่ากลุ่มแอลจีบีทีคิว

หลังมีรายงานข่าวนี้ออกไปคำค้นที่ชาวเน็ตค้นหามากที่สุดใน “เนเวอร์” เว็บเสิร์ชข้อมูลของเกาหลีใต้คือคำว่า เกย์ และอิแทวอน โคโรนา จนผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางคนกังวลว่า การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอาจสกัดให้คนไปคลับบางคนไม่ไปตรวจหาเชื้อ

ด้านกลุ่มโซลิดาริตีเพื่อสิทธิมนุษยชนแอลจีบีทีในเกาหลี ที่เป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนใหญ่สุดของประเทศ เผยว่า รายงานข่าวบอกถึงอายุ เพศ ที่อยู่ อาชีพ และการเคลื่อนไหวของบุคคลแรกที่ไปเที่ยวคลับแถวนั้นแล้วตรวจเชื้อได้ผลเป็นบวก

“การเปิดเผยข้อมูลความเคลื่อนไหวของบุคคลไม่ได้ช่วยป้องกันโรคเลย แต่กลับเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง รุกล้ำความเป็นส่วนตัวและเบียดขับเขาให้หลุดไปจากสังคม” กลุ่มโซลิดาริตีฯ แถลง

ต่อมาสื่อท้องถิ่นแก้ไขพาดหัวข่าว ตัดเนื้อหาที่อ้างถึงบาร์เกย์ออกไปแต่ไม่ได้ขอโทษอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเป็นคนรักร่วมเพศไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศนี้ และสังคมยอมรับความสัมพันธ์ของแอลจีบีทีคิวได้มากขึ้น แต่นักสิทธิมนุษยชนเผยว่า การเลือกปฏิบัติยังมีอยู่มาก เกย์บางคนต้องทนทรมานกับอาชญากรรมจากความเกลียดชัง

กรณีไนท์คลับย่านอิแทวอนเป็นผลพวงจากการที่เกาหลีใต้นำเทคโนโลยีชั้นสูงมาตามรอยโรค จนได้รับเสียงชมเชยไปทั่วโลก เพราะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ตั้งโทรศัพท์มือถือของผู้ป่วย ภาพจากกล้องวงจรปิด รายงานการใช้เครดิตการ์ด และข้อมูลอื่นๆ มีการส่งข้อความเตือนอัตโนมัติทางมือถือไปถึงทุกคนที่ต้องสงสัยว่าเคยอยู่ในพื้นที่เดียวกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว ข้อมูลที่แจ้งเช่น เพศผู้ป่วย อายุ สถานที่ บางครั้งก็บอกที่ทำงานด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อพยายามติดตามผู้ติดเชื้อรายใหม่