'ดาวโจนส์'บวกกว่า400จุดขานรับเศรษฐกิจฟื้น
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์(8มิ.ย.)พุ่งขึ้นกว่า 400 จุด ขานรับความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทั้ง 50 รัฐได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 461.46 จุด หรือ 1.70% ปิดที่ 27,572.44 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 38.46 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 3,232.39 จุดและดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 110.66 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 9,924.75 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุด ทะลุแนว 27,000 จุดเมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 50% นับตั้งแต่ทรุดตัวลงในวันที่ 23 มี.ค. ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดตัวราว 45%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นในวันนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 9-10 มิ.ย. โดยมองหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะจัดการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 10 มิ.ย. โดยคาดว่าเขาจะเน้นย้ำว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด
ราคาหุ้นของบริษัทกิลเลียด ไซอึนนส์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาของสหรัฐ พุ่งขึ้นในวันนี้ หลังมีข่าวว่า บริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ได้ติดต่อบริษัทกิลเลียดเพื่อหารือเกี่ยวกับการควบรวมกิจการเพื่อก่อตั้งบริษัทยาขนาดใหญ่ของโลกที่มีมูลค่าตลาดรวมกันมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี นายแอนดรูว์ บอม นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป คาดว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่อนุมัติการควบรวมกิจการดังกล่าว เนื่องจากกิลเลียด ถือเป็นบริษัทชั้นนำในการพัฒนายาต้านไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าแอสตราเซเนกาได้ติดต่อกิลเลียด ตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ทางกิลเลียด ไม่ได้แสดงความสนใจที่จะควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น
หากการเจรจาดังกล่าวประสบความสำเร็จ จะเป็นข้อตกลงที่มีมูลค่ามากที่สุดในวงการเภสัชภัณฑ์ โดยกิลเลียด และแอสตราเซเนกา มีมูลค่าตลาด 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ตามลำดับ
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการกับกิลเลียดจะช่วยให้แอสตราเซเนกา สามารถลดการพึ่งพารายได้จากการผลิตยารักษาโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ ยา Remdesivir ของบริษัทกิลเลียด ถือเป็นยาตัวแรกที่มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในโครงการทดลองรักษาอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน แอสตราเซเนกาำ กำลังดำเนินโครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด