นิวยอร์กไทม์ส ถอนตัว 'Apple News' เหตุไม่เวิร์ก!

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส กลายเป็นสื่อใหญ่สุดที่เตรียมผละจากแอปเปิ้ลนิวส์ โดยอ้างเหตุผลว่า แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดสมัครสมาชิกและเป้าทางธุรกิจให้หนังสือพิมพ์ได้อย่างที่หวัง 

การออกจากแอปเปิ้ลนิวส์ของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่รายนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะปัญหายอดคนอ่านหนังสือพิมพ์ลดลง ขณะที่รายได้จากโฆษณาในโลกออนไลน์ถูกเจ้าใหญ่อย่างกูเกิลและเฟซบุ๊คยึดหัวหาด 

เมเรดิธ โคพิท เลเวน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนิวยอร์กไทม์ส ทำบันทึกถึงพนักงานและตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันจันทร์ (29 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ ระบุ 

“หัวใจหลักของความร่วมมือกับแพลตฟอร์มนี้ คือการช่วยให้ผู้อ่านกลับมาอ่านหนังสือพิมพ์ของเรา ที่เราสามารถควบคุมทิศทางการรายงานข่าว คงไว้ซึ่งหลักการข่าว และความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้อ่านไว้ได้ ดูเหมือนการทำงานกับแอ๊ปเปิ้ล ไม่ได้ทำให้เกิดผลตามที่ต้องการ” 

แอพพลิเคชั่นแอปเปิ้ลนิวส์เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2558 หวังช่วยส่งเสริมยอดสมัครสมาชิกให้กับหนังสือพิมพ์ ปีก่อนแอปเปิ้ลได้เพิ่มบริการใหม่ที่เรียกว่า แอปเปิ้ลนิวส์พลัส ที่ต้องแบ่งปันรายได้กับหนังสือพิมพ์และนิตยสาร 

แอปเปิ้ลนิวส์โฆษณาตัวเองว่า เป็นพื้นที่บริการข่าวที่เลือกสรรโดยมนุษย์ ไม่ใช่อัลกอริธึม จากข่าวที่รายงานโดยสื่อใหญ่อย่าง วอลล์สตรีทเจอร์นัล, เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก, เดอะนิวยอร์คเกอร์, วานิตี้ แฟร์ และสปอร์ต อิลลัสเตรท

แต่บริการนี้กลับไม่ได้เพิ่มรายได้ให้กับหนังสือพิมพ์เหล่านี้อย่างที่คาด นิวยอร์กไทม์สระบุด้วยว่า การติดตามอ่านข่าวผ่านแอพนี้ถูกแอปเปิ้ลหักรายได้ 30% รายได้จากแอปเปิ้ลนิวส์พลัสก็ถูกหักไปครึ่งหนึ่ง

การตีจากแอปเปิ้ลนิวส์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเกิดขึ้นหลังจาก กูเกิ้ล ประกาศเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า จะทำข้อตกลงจ่ายค่าตอบแทนให้กับสำนักข่าวที่กูเกิลนำคอนเทนต์ขึ้นไปแสดงผลบนหน้าค้นหา

เฟซบุ๊คเองก็เผยแผนคล้ายๆ กันเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมาที่จะสร้างพันธมิตรกับองค์กรสื่อต่างๆ ในการนำเสนอข่าวสาร

ด้านโฆษกแอปเปิ้ลเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านนิวยอร์กไทม์สว่า หนังสือพิมพ์ยอมให้แอปเปิ้ลนิวส์ใช้ข่าวฟรีวันละ 2-3 ชิ้น

“เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนข่าวคุณภาพที่มีโมเดลทางธุรกิจเป็นที่ยอมรับทั้งการโฆษณาสมัครสมาชิก และการพาณิชย์” โฆษกแอปเปิ้ลกล่าว

ขณะที่หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ทั่วโลกกำลังย่ำแย่ แต่นิวยอร์กไทม์สยังอยู่ดี แม้รายได้จากการโฆษณาจะลดลง แต่ยอดสมัครสมาชิกยังสูงถึงกว่า "6 ล้านคน" ในเดือนที่แล้ว

ส่วนชะตากรรมของ สำนักข่าวเอเอพี แห่งออสเตรเลีย ปรากฏว่า กลุ่มบริษัทนำโดยผู้ใจบุญเข้ามาซื้อกิจการเอาไว้ได้

ข้อตกลงนี้ได้รับการยืนยันเมื่อคืนวันจันทร์ 3 เดือนหลังจากเอเอพีบอกกับพนักงานว่า จะปิดกิจกรรมเพราะเศรษฐกิจย่ำแย่หนักเมื่อโดนการระบาดของไวรัสโคโรนามาซ้ำเติม

แต่แล้วกลุ่มนักลงทุน ที่รวมถึง ปีเตอร์ โทนาฟ อดีตผู้บริหารนิวส์คอร์ป ได้ส่งอีเมลแจ้งพนักงานว่า พวกเขามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือความปรารถนาปกป้องความหลากหลายของสื่อในออสเตรเลีย

“เรารู้สึกว่า หนทางที่ดีที่สุดที่ต้องทำคือ การรับประกันความยั่งยืนของสำนักข่าวเอเอพีและการทำข่าวอย่างมีอิสระและคุณภาพที่สำคัญต่อชาวออสเตรเลียทุกคน เราเชื่อว่า ไม่เคยมีอะไรสำคัญกับสังคมของออสเตรเลียไปกว่านี้ และเรากังวลกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปิดตัวของเอเอพี ต่อการทำข่าวอย่างอิสระ ต่อตำแหน่งงาน และและความอยู่รอดของหน้าใหม่ที่จะเข้ามาในวงการสื่อ” แถลงการณ์กลุ่มทุนระบุ

เรื่องของเรื่องเริ่มต้นในเดือน มี.ค. เมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างนิวส์คอร์ป ของรูเพิร์ต เมอร์ดอค และ กลุ่มบริษัทสื่อทีวีและหนังสือพิมพ์ “ไนน์เอนเตอร์เทนเมนท์” ตัดสินใจแบบไม่มีใครคาดคิด ถอนตัวจากเอเอพี กลายเป็นความหวาดหวั่นว่าสื่อออสเตรเลียจะล้มหายตายจาก

แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมามีคนขอซื้อกิจการเอเอพีมากมาย แผนการปิดกิจการในวันที่ 26 มิ.ย.จึงต้องชะลอออกไป นับจากนี้เอเอพียังคงดำเนินการต่อไปได้ โดยมี "เอ็มมา คาวดรอย" หัวหน้าที่ปรึกษากฎหมายปัจจุบัน ก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอ และ "แอนดรูว์ ดรัมมอนด์" เป็นบรรณาธิการต่อไป