ฮ่องกง‘บังคับสวมหน้ากาก’สู้โควิดรอบใหม่
ทางการฮ่องกงสั่งทุกคนต้องสวมหน้ากากตั้งแต่วันพุธนี้ ห้ามรวมตัวกันเกิน 2 คน ถือเป็นมาตรการเข้มงวดสุดเท่าที่ทำมา เพื่อต่อสู้การแพร่ระบาดระลอกใหม่
นายแมททิว เฉิง เลขาธิการคณะรัฐมนตรีฮ่องกงเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฮ่องกงรุนแรงอย่างเห้นได้ชัด รัฐบาลต้องออกมาตรการใหม่ รวมถึงห้ามประชาชนรวมตัวกันในที่สาธารณะเกิน 2 คน ร้านอาหารขายเฉพาะแบบซื้อกลับบ้านเท่านั้น ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากาก เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.เป็นต้นไป
ศูนย์กลางการเงินที่ประชากรอาศัยกันอย่างหนาแน่นแห่งนี้ เป็นที่แรกๆ ที่ถูกโควิด-19 เล่นงานหลังจากพบครั้งแรกในจีน แต่ช่วงแรกฮ่องกงควบคุมการระบาดได้อย่างประสบความสำเร็จ ชาวฮ่องกงยินดีสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่เนิ่นๆ
อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในท้องถิ่นพุ่งขึ้นในเดือน มิ.ย. มาตรการรักษาระยะห่างแบบเล็กๆ น้อยๆ ดูเหมือนแทบไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. ผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วมีกว่า 1,000 คน หรือกว่า 40% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดนับตั้งแต่พบรายแรกเมื่อปลายเดือน ม.ค.
ช่วง 5 วันที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมีไม่ต่ำกว่า 100 คน ขณะนี้ฮ่องกงที่มีประชากร 7.5 ล้านคน มีผู้ติดโควิดกว่า 2,600 คน เสียชีวิต 19 คน
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขบางคนกล่าวโทษว่า การที่ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากเพราะรัฐบาลยกเว้นให้บุคลากรที่จำเป็นไม่ต้องกักตัว 14 วัน เช่น คนขับรถบรรทุกข้ามพรมแดน ลูกเรือทั้งบนเครื่องบินและเรือเดินสมุทร เนื่องจากฮ่องกงเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมยอดนิยม จึงเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายลูกเรือ
ถึงวันนี้ (27 ก.ค.) ทางการต้องใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น เฉพาะเครื่องบินขนส่งสินค้าที่มุ่งหน้ามายังฮ่องกงเท่านั้นจึงจะขนถ่ายบุคลากรได้ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ไปในที่สาธารณะ จะต้องเดินทางเข้า-ออกเฉพาะสนามบิน หรือต้องพักในสถานที่กักตัวตามที่กำหนด